ลดลง เก็งกำไร SAAM AS RCL (7 ธันวาคม 2564)

ลดลง เก็งกำไร SAAM AS RCL (7 ธันวาคม 2564)

คาดดัชนีฯ ลดลง แนวต้าน 1593 / 1597 จุด แนวรับ 1572 / 1563 จุด แนะนำ เก็งกำไร SAAM AS RCL ปัจจัยลบ คือ ข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "Omicron" เป็นรายแรกในประเทศไทย

เป็นนักธุรกิจอเมริกันเดินทางมาจากสเปนผ่านดูไบ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. (มีผู้สัมผัสจากโรงแรม 17 คน และพนักงานในสนามบิน 2 คน) ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขายเพิ่ม หากดัชนีฯ หลุด 1572 จุด (EMA 200 วัน) นาลงโดยกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มอิง Cyclical Play ส่วนปัจจัยที่รออยู่ คือ ผลวัคซีนต่อไวรัส Omicron ที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ (โอกาสสูงที่วัคซีนเดิมจะไม่มีประสิทธิภาพรักษา)

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ
 

      +/-กลุ่มเดินทางท่องเที่ยวและพลังงาน: AOT AAV BA MINT CENTEL ERW PTTEP
TOP PTT

      +กลุ่มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ & กลุ่มยานยนต์ รับงาน Motor Expo: TCAP TISCO KKP
SAT AH STANLY

      +กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ: +กลุ่มบัตรเครดิต KTC AEONTS กลุ่มพาณิชย์ CRC
CPN และสินค้าต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ SIS SYNEX CPW SPVI COM7

*สามารถติดตามหุ้นที่น่าสนใจเพิ่มตามจากรายงาน BIG TACTICAL PICKS และ SMALL
TOP PICKS

 

ปัจจัยบวก
 

      +Oil: ทีมบริหารของประธานาธิบดีไบเดน อยู่ระหว่างการพิจารณาเลื่อน Timeline ของการนำปริมาณน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้ จากเดิมช่วงเดือน ม.ค.–ก.พ. 2022 โดยตลาดคาดว่าจะมีน้ำมันดิบเข้ามา 66 ล้านบาร์เรล ส่งผลต่อปริมาณอุปทานต่อวันเพิ่มขึ้น 1.1-2 ล้านบาร์เรล/วัน

     +Omicron: JPMorgan Chase ออกรายงานระบุว่า COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ คาดความรุนแรงของเชื้อจะน้อยกว่า Delta

ปัจจัยลบ
 

       -Market Risks: พบจำนวนผู้ติดเชื้อ Omicron กระจายไปในหลายประเทศ หลายทวีปรวมถึงพบจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นในประเทศเดิม เช่น UK USA รวมถึงการทยอยออกมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศชั่วคราวหรือกักตัวนานขึ้น ส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและเดินทาง โดยเฉพาะในช่วง High Season นี้

      -Interest Rate Risks: FED มีโอกาสสูงที่จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรและ MBS จาก
ปัจจุบัน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุม FOMC วันที่ 15–16 ธ.ค.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

- Opportunity Day: IP SIMAT APCO COLOR SISB BTS BTSGIF PROUD
- จีนรายงานดุลการค้าเดือน พ.ย. คาดเกินดุลเหลือ USD79bn (Vs USD84.5bn ในเดือน ต.ค.)
- Australia ผลประชุมธนาคารกลางคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.10% แต่อาจส่งสัญญาณเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วขึ้น
- EU รายงาน 3Q21E GDP Growth คาดเติบโต (Vs 2Q21 2.1% QoQ, 14.2% YoY)
- USA รายงานดุลการค้า เดือน ต. ค. คาดขาดดุล -USD66.8bn. (Vs เดือน ก.ย.-USD80.9bn.)

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1587.53-1597.25 จุดก่อนมาปิดตลาดที่ 1588.19 จุด -3.65 จุด วอลุ่ม 5.52 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -3.06% การแพทย์ -0.95% พาณิชย์-0.37% หุ้นปรับขึ้น >4%ได้แก่ HL RCL AS BROOK IT ACC PPM JTS FNS หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ SABUY DELTA RS TNDT SVI ARIN MFEC CPW

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ DJ -0.17% S&P500 -0.84% NASDAQ -1.92% ถ่วงลงโดยกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะกังวลเฟดจะเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจแสดงการชะลอตัว โดยการจ้างงานเดือน พ.ย. เพิ่มเพียง 2.1 แสนตำแหน่ง (Vs คาดเพิ่ม 5.81 แสนตำแหน่ง) และตัวเลขภาคการผลิต Markit PMI เดือน พ.ย. ลดลงเป็น 58 (Vs เดือน ต.ค. 58.7) ส่งผล VIX Index เพิ่มขึ้น 9.7 เป็น 30.67 จุด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงวิตก Omicron ถ่วงเศรษฐกิจ DAX -0.61% CAC40 -0.44% FTSE -0.1%

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดคละ แต่ทองคำปิดบวก: ตลาดน้ำมันดิบปิดคละ โดย WTI -USD0.24 ปิดที่ USD66.26/บาร์เรล Brent +USD0.21 ปิดที่ USD69.88/บาร์เรลคาดไวรัสใหม่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ส่วนราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น +USD21.20 ปิดที่ USD1,783.90/ออนซ์ จากการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

+/-ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow: สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบัน (ต่างชาติ กองทุน พอรต์โบรกเกอร์) ขายสุทธิพร้อมกันต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ด้วยวอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น -2.27 หมื่นล้านบาท (สัปดาห์ก่อนหน้า ขาย -1.2 หมื่นล้านบาท) โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชำติขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.14 หมื่นล้านบาท (สัปดาห์ก่อนหน้า ขาย -3.04 พันล้านบาท)

- ตราสารอนุพันธ์ุ: นักลงทุนต่างชาติ ยังคงเปิด Short Set 50 Index Future ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองอีก -13,118 สัญญำ Vs สัปดาห์ก่อนหน้า Short สูงถึง 49,696 สัญญา

- USA: เศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว ตัวเลขจ้างงานเดือน พ.ย. ออกมาแย่กว่าคาด (เพิ่ม 2.1 แสนตำแหน่ง Vs คาดเพิ่ม 5.81 แสนตำแหน่ง) และตัวเลขภาคการผลิต Markit PMI เดือน พ.ย. ลดลงเป็น 58 (Vs เดือน ต.ค. 58.7) แต่อัตราว่างงานเดือน พ.ย. ลดลงเป็น 4.2% (คาด 4.5%)

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: MEGA WICE RCL

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SAAM AS RCL

Derivatives: แนะถือ Short ที่เปิดไว้บริเวณ 949-950 จุด รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)