ธุรกิจทุกวงการ ตบเท้าร่วมพันธมิตร "วันสยาม ซูเปอร์แอพ"
สยามพิวรรธน์สร้างปรากฏการณ์ เปิด ONESIAM SuperApp จับมือพันธมิตร 13 อุตสาหกรรม เปิดโลกใหม่ของการสร้างธุรกิจดิจิทัล
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญย้ำภาพผู้นำความคิดสร้างสรรค์ (Thought Leader) พัฒนาและเปิด “ONESIAM” ซูเปอร์แอปพลิเคชันใหม่ ที่รวม 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์เหนือความคาดหมาย “The Universe of Extraordinary Experiences” ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีก่อน สยามพิวรรธน์ได้พลิกกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ โดยเป็นคนแรกที่ประกาศว่า ศูนย์การค้าของเราไม่ได้เป็นเพียงที่ขายสินค้าหรือให้บริการต่างๆ แต่เป็นสถานที่ที่จะนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่และยิ่งใหญ่ในทุกมิติ สร้างแรงบันดาลใจและมอบคุณค่าของการใช้ชีวิตแก่ผู้คนอย่างไม่สิ้นสุด ความสำเร็จในการทำธุรกิจของเราไม่ได้อยู่ที่ผลกำไร แต่คือการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าของเราทั้งคนไทยและทั่วโลก จากนั้นมา สยามพิวรรธน์ได้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศได้สำเร็จ สู่การเป็นผู้ชนะคว้ารางวัลที่หนึ่งในสาขาต่างๆในเวทีโลกได้อย่างต่อเนื่องเป็นปรากฏการณ์ และมีฐานลูกค้ามีระดับที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุด ความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในวันนี้มาจากการร่วมมืออันยาวนานกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะก้าวไปกับเราเพื่อร่วมปฏิวัติวงการและนำเสนอความแปลกใหม่ให้ได้ก่อนใคร อีกทั้งสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกันจนเติบโตและประสบความสำเร็จร่วมกันอย่าง
น่าภาคภูมิใจยิ่ง
ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากในการทำธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้ระบบนิเวศธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดโอกาสในการเชื่อมโยงระบบดิจิทัลซึ่งกันและกัน ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกไม่จำเป็นต้องวางกรอบตัวเอง อยู่ในอุตสาหกรรมเดิมอีกต่อไป แต่สามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ จากการเชื่อมต่อกับพันธมิตร อีกทั้งผสานฐานลูกค้าให้มีการบริหารจัดการที่จะส่งประโยชน์สูงสุดพร้อมมอบหลากหลายประสบการณ์บนแพลตฟอร์มเดียวให้ลูกค้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสนี้และได้เริ่มพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกที่จะเชื่อมคู่ค้าพันธมิตรจากทั่วโลก (Global Ecosystem) ให้เติบโตร่วมกันบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดนี้ มาจากหลักในการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่ยึดมั่นในการ Share Values และ Co-creation เพื่อให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าร่วมกันอย่างยั่งยืน
นางชฎาทิพ กล่าวเสริมว่า “ในวันนี้ สยามพิวรรธน์พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจที่สามารถขยายไปได้อย่างไร้พรมแดน โดยนำเสนอจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายในโลกดิจิทัล (The Universe of Extraordinary Experiences)ซึ่งเราได้ใช้ระยะเวลาเพียง 13 เดือน ในการปรับกลยุทธ์ และพัฒนาแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่จะทลายทุกข้อจำกัด และสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆอีกหลากหลายประเภทของพันธมิตรในระบบนิเวศของเรา ภายใต้การนำของคุณอริยะ พนมยงค์ ทำหน้าที่ประธานบริหารสายงานนวัตกรรมและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational โดยทำงานร่วมกับคุณอักเซล วินเทอร์ประธานบริหารสายงานดิจิทัล โดยใช้นวัตกรรมจากหลายองค์กรชั้นนำต่างประเทศ
สยามพิวรรธน์ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้สนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของบรรดาร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้าของเรารวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เราได้เชิญมาร่วมใน Global Ecosystem นี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของการรวมพลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งเรามีความยินดีที่จะมอบ “ONESIAM SuperApp”ให้เป็นแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมโยงกว่า13 อุตสาหกรรมให้ใกล้ชิดผู้บริโภค ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ โดยพันธมิตรในระบบนิเวศธุรกิจนี้จะเข้ามาเติมเต็ม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงผ่านวิสัยทัศน์ในการพัฒนา ONESIAM SuperApp ดังนี้
1. Sharing Economy สยามพิวรรธน์เชื่อในพลังของการแบ่งปันประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในวงจรห่วงโซ่ธุรกิจ ซึ่ง ONESIAM SuperAppนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นแพลตฟอร์มที่จะมอบประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้ทั่วถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แก่
• ลูกค้าทั่วโลก - ONESIAM SuperApp นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มที่มอบจักรวาลแห่งประสบการณ์เหนือความคาดหมาย แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิกแล้ว ยังจะทำให้ทุกการจับจ่ายใช้สอยเกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด ผ่านการปฏิวัติระบบ Loyalty Program ให้เป็นระบบเพิ่มมูลค่า โดยลูกค้าจะได้รับคืนเป็น VIZ COIN จากการจับจ่ายใช้สอยตามเงื่อนไขที่กำหนด ยิ่งไปกว่านั้น สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะขยายการให้บริการครอบคลุมเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าในไตรมาสแรกของปีหน้า ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายอีกด้วย
• คู่ค้า และร้านค้าชั้นนำจาก 4 ศูนย์การค้าที่เข้าร่วม – สยามพิวรรธน์วางกลยุทธ์ให้ ONESIAM SuperAppเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนและใช้คะแนนสะสม (Earn & Burn Destination) จากพันธมิตรทางธุรกิจ
ต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขาย สร้างแบรนด์ สนับสนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มยอดขายซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง
• พันธมิตรทางธุรกิจ - ONESIAM SuperAppจะเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่พันธมิตรในระบบนิเวศธุรกิจ(Global Ecosystem) ของสยามพิวรรธน์สามารถใช้ร่วมกันในการพัฒนาธุรกิจของตนเองสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลใหม่ๆ อีกทั้งเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนและการใช้ VIZ COINรวมถึงสิทธิประโยชน์มากมาย พันธมิตรทุกรายสามารถขยายฐานลูกค้าบนแพลตฟอร์มนี้ไปได้อย่างไร้ข้อจำกัดและไร้พรมแดน
2.Co-creation สยามพิวรรธน์ได้ผนึกกำลังกับองค์กรนวัตกรรม พันธมิตร คู่ค้า แบรนด์ที่แข็งแกร่งจากทั่วโลก
ในการสร้างมหกรรมคอนเทนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจจากฝีมือ Content Makers ระดับโลก สร้างสรรค์แคมเปญการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึง Loyalty Program โดยพันธมิตรในระบบนิเวศสามารถร่วมสร้าง Community
ตามความสนใจของกลุ่มลูกค้า ซึ่งในปี 2022 ONESIAM SuperAppจะถูกพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถมา Co-create Content ร่วมกันในแต่ละ Community ได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย
3. Collaborate to Win ปรากฏการณ์ครั้งแรกของการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มจากหลากหลายประเภทธุรกิจของพันธมิตรในระบบนิเวศ อาทิ Fintech Platform, S-Commerce และ E-Commerce, NFT, Cryptocurrency/Benefitsและ Metaverse เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าและสมาชิกของพันธมิตรทุกรายได้เข้าถึงทุกธุรกรรมได้บนแพลตฟอร์มเดียว ทั้งนี้พันธมิตรของสยามพิวรรธน์สามารถร่วมคิดและพัฒนาธุรกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆร่วมกันบน ONESIAM SuperAppนี้ได้เสมอ
4.Sustainable Growth for All จากพันธกิจของสยามพิวรรธน์ ที่ตั้งเป้าให้ทุกฝ่ายสามารถเติบโตไปด้วยกันได้บนแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperAppเป็นการเปิดโลกใหม่ของการทำธุรกิจดิจิทัลที่ทลายทุกข้อจำกัด ส่งผลให้เกิดการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าซึ่งกันและกันระหว่างพันธมิตร มีโอกาสที่จะร่วมกันพัฒนาให้เกิดธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆได้อย่างไร้ข้อจำกัด และขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นการเติบโตด้วยความมั่นคงอย่างยั่งยืน
สยามพิวรรธน์ถือเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่รายในโลกและเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ลงทุนสร้างแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นการต่อยอดจากวิสัยทัศน์ขององค์กร และพันธมิตรใน Global Ecosystem ที่จะช่วยกันรังสรรค์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายในโลกดิจิทัลบนแพลตฟอร์มเดียวที่จะรวบรวมลูกค้าของพันธมิตรทุกรายเข้ามาเป็นสมาชิก และบริหารประสบการณ์แบบCustomer Centricอย่างลงลึกเพื่อให้แพลตฟอร์มนี้เข้าใจพฤติกรรม และเข้าถึงความต้องการของลูกค้า สามารถสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่เหนือระดับ พร้อมมอบคุณค่าทางด้านจิตใจและตอบสนองการบริโภคทุกมิติ รวมถึงให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด
ONESIAM ซูเปอร์แอปพลิเคชันใหม่จะเปิดรับสมาชิกในวันที่ 9 ธันวาคม โดยทุกคนสามารถสมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอสินค้าและบริการที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถันให้กับลูกค้าบนความสนใจเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยี A.I. ที่จะเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า พร้อมด้วย Hyper Personalized Marketing ที่จะวิเคราะห์ และคาดการณ์การรับข่าวสารและซื้อสินค้าครั้งหน้าของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้บริหารจัดการสินค้าและบริการทุกประเภทได้ดีขึ้น รวมทั้งสร้างแคมเปญให้ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการเชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนานonline/offlineให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาประสบการณ์แบบคนรู้ใจ
นายปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้าบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ONESIAM SuperAppจะเป็นประตูสู่ระบบนิเวศของสยามพิวรรธน์ ที่จะมาเติมเต็มพลังให้สมาชิกได้มากกว่าเดิม ในวันนี้ ธุรกิจค้าปลีกไม่ใช่เพียงเรื่องการจับจ่ายใช้สอย แต่หมายรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะมาตอกย้ำความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครของสยามพิวรรธน์
โดย ONESIAM SuperAppจะรวมความพิเศษอันหลากหลายผ่าน 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย ดังนี้
1. จักรวาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย (Universe of Shopping Experiences) : การผนึกแบรนด์ระดับพรีเมียมและลักชัวรีอีกกว่า 1,000 แบรนด์ ในต้นปี 2022 ที่ตอบรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ONESIAM SuperAppโดยมีแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ได้ตอบรับการเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มในรูปแบบการขายสินค้า การทำContent ที่น่าตื่นตาตื่นใจ การทำ Loyalty Platform ซึ่งสยามพิวรรธน์เชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังกับร้านค้าเข้าสู่ระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่พร้อมกับสิทธิประโยชน์ในรูปแบบที่แปลกใหม่ คุ้มค่า และเกินความคาดหมายอีกครั้ง นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลักชัวรีโดยเฉพาะ คือ การเปิดหน้าพิเศษสำหรับลักชัวรีแบรนด์แยกออกมา ทั้งในส่วนของคอนเทนต์ สินค้า และบริการ
2. จักรวาลแห่งการเชื่อมโยงคอมมูนิตี้ (Universe of Co-Created Communities) : การผนึกความร่วมมือกับผู้นำความคิด คนรุ่นใหม่ พันธมิตร ร้านค้า คู่ค้า มาร่วมสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์แพลตฟอร์ม ให้ได้รู้ก่อนใคร นำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายตามความสนใจของลูกค้าเพื่อเชื่อมโยงและสร้างการมีส่วนร่วม พร้อมมอบแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้าของสยามพิวรรธน์ ทั้งในเรื่องของเทรนด์ล้ำโลกต่างๆ โดยมีคอนเทนต์มากกว่า 3,000 คอนเทนต์ในแต่ละเดือน จาก 5 คอมมูนิตี้หลัก ได้แก่ Style: แฟชั่น เครื่องประดับ / Glow : สุขภาพ ความสุขสมบูรณ์ ความงาม เครื่องบำรุงผิว / Feast หรือ การเฉลิมฉลอง: อาหาร เครื่องดื่ม การสังสรรค์ / Travel หรือการแสวงหา : การท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ดีไซน์ และ Fun หรือกิจกรรมยามว่าง : กีฬา เกมส์ แกดเจ็ต
3. จักรวาลแห่งระบบรีวอร์ดที่ไร้ขีดจำกัด (Universe of Infinite Rewards) : การผนึกร้านค้า พันธมิตรปฏิวัติระบบ Loyalty Program แบบใหม่ ใช้ VIZ COIN ที่ 1 เหรียญ มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท ยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการภายในศูนย์การค้าและบนช่องทางออนไลน์ อีกทั้งได้ร่วมมือกับ Loyalty Program ของพันธมิตรต่าง ๆเพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนคะแนนสะสมในบัตรเครดิตธนาคารหรือบัตรสมาชิกต่างๆ เป็น VIZ COIN เพื่อใช้ซื้อสินค้าได้คุ้มค่าและสะดวกสบายขึ้น ยิ่งช้อปยิ่งสะสม VIZ COIN แล้วนำมาใช้ต่อได้ทันที รวมถึงสร้างให้ ONESIAM SuperAppเป็น Earn & Burn Destination กับร้านค้าและพันธมิตรในGlobal Ecosystem
4.จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด (Universe of Unlimited Experiences) : ในต้นปี 2022 สมาชิกจะสามารถใช้ ONESIAM SuperApp ในการทำธุรกรรมดิจิทัลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับ “สินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Assets)และดิจิทัลยูทิลิตี้ (Digital Utility)เพิ่มเติมจาก Loyalty Program โดยในช่วงแรกนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมากกว่ารีเทลระดับโลกในรูปแบบ “งานศิลปะดิจิทัล NFT” ด้วยการเปิดตัว ความร่วมมือกับ KASIKORN X หรือ KX เป็นพันธมิตรแรก ในการก่อตั้ง Coral - Super Simple NFT Marketplace (CORALWORLD.CO) เพื่อเป็นการสนับสนุน ผลักดัน ต่อยอด งานศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ของศิลปินไทยและภูมิภาค ในประเทศไทยและไปสู่ระดับโลกและการร่วมมือกับZipmexในการแลกซื้อคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT) ก่อนพัฒนาสู่ช่วงที่สอง ซึ่งทางสยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำอาทิเช่น X Spring (เอ็กซ์สปริง) และ เจ เวนเจอร์ส เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรภายในปีหน้า นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมขยายศักยภาพการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงบน Metaverse ด้วยการจับมือกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมต่อประโยชน์อันหลากหลายไว้ในที่เดียวและจะมีการพัฒนาธุรกิจและกิจกรรมดิจิทัลเรื่องอื่นๆบนONESIAM SuperAppอย่างต่อเนื่อง
ในการสร้าง ONESIAM SuperApp สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอาทิบริษัทTransformational Perx Technologies ที่เข้ามาช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่บนโลกดิจิทัลที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับกลุ่มพันธมิตรร้านค้าและคู่ค้าขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าจะได้รับประโยชน์เต็มอิ่มกับสิทธิประโยชน์เหนือระดับผ่าน Loyalty Program รูปแบบใหม่ที่ใช้ VIZ COIN มาแทนการสะสมคะแนนแบบเดิมช่วยให้คุณสะสมได้ง่ายและใช้ได้สะดวกขึ้นรวมทั้งสนุกเร้าใจกับการจับจ่ายใช้สอยผ่านประสบการณ์แบบเกมมิฟิเคชัน (Gamification) นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ Adobe ผู้ดูแลระบบการจัดการคอนเทนต์ (Content Management) การทำ Personalization ให้กับกลุ่มลูกค้าและ Huawei Technologies ผู้ให้บริการด้าน Cloud Service ซึ่งสยามพิวรรธน์มีแผนที่จะจับมือร่วมกับบริษัทชั้นนำสำหรับการพัฒนาเชื่อมสู่แพลตฟอร์มโลกการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไปในอนาคตโดย ONESIAM SuperApp ตั้งเป้าการดาวน์โหลดไว้ที่ 5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2565
ONESIAM SuperApp พร้อมจับมือร่วมกันกับพันธมิตรศูนย์การค้าในต่างประเทศ (Global Privilege Partners) คู่ค้าร้านค้าส่งมอบจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เชื่อมโยงความต้องการของลูกค้ากับสินค้าหรือบริการได้อย่างตรงจุดมากขึ้น จากความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่พันธมิตรมีให้สยามพิวรรธน์มาตลอดระยะเวลาในการทำธุรกิจ ส่งผลให้มีพันธมิตรชั้นนำกว่า 50 บริษัท ครอบคลุม 13 กลุ่มอุตสาหกรรมได้ให้ความสนใจและตอบรับในการร่วมสร้างปรากฏการณ์ระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกไปด้วยกันโดยพันธมิตรองค์กรชั้นนำที่เข้าร่วมในเบื้องต้น
ประกอบด้วย
• การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
• กลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและการธนาคาร : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), บริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยา, บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, ธนาคารกสิกรไทย, บัตรเครดิต เคทีซี, ธนาคารซิตี้แบงก์, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารออมสิน, ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) และบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
• กลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัย : บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน),บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
• กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร: บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
• กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ : บริษัทแสนสิริจำกัด (มหาชน)
• กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ : โรงพยาบาลกรุงเทพ, บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด, โรงพยาบาล
บํารุงราษฎร์, รักษ ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม
• กลุ่มอุตสาหกรรมการบิน : บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส, airasia Super App
• กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ : กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)
• กลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและเอ็นเตอร์เทนเมนท์: บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน), บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน)
• กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ : โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ, โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ
• กลุ่มอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล - บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด, บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จํากัด, บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน), KASIKORN X, Zipmex
• กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี : บริษัท Transformational, Perx Technologies, Adobe, บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ,inCart โดยบริษัท มิวซ์ อินโนเวชั่น จำกัด
• กลุ่มอุตสาหกรรมโฆษณาและผลิตคอนเทนต์ : โอกิลวี่ ประเทศไทย, บริษัท ดี โปรดักชั่น เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท แอนด์เฟรนด์สตูดิโอ, เป็นตุเป็นตะ Boutique Agency and Production House, อีส ครีเอทีฟ แอนด์ โปรดัคชั่น เฮาส์, ทีม จินโตะ