‘จุรินทร์’ คิกออฟจ่ายเงินข้าว-ยาง 7 หมื่นล้าน

‘จุรินทร์’ คิกออฟจ่ายเงินข้าว-ยาง 7 หมื่นล้าน

“จุรินทร์” คิกออฟจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว-ยาง งวดตกค้างรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท ชี้ชาวนาได้ประโยชน์ 4.7 ล้านครัวเรือน จากเงิน 3 ก้อนทั้งส่วนต่าง ค่าเก็บยุ้งฉาง และค่าปรับปรุงคุณภาพ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ระบุ การจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว-ยางพารา ในวันนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ค้างจ่ายเงินส่วนต่างที่จะต้องจ่ายให้กับเกษตรกร เพื่อชดเชยกับราคาตลาดที่ไม่ถึงรายได้ที่ประกัน โดยข้าวค้างจ่าย 5 งวด และยางค้างจ่าย 2 งวด แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีขยายเพดานตามพ.ร.บ.วินัยการคลัง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564  มีผลให้เพดานเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 35% สามารถนำเงินที่มีอยู่มาจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับยางพาราได้
         
สำหรับข้าว ปีที่ 3 เงินที่เกษตรกรจะได้รับ มี 3 ก้อน ก้อนที่หนึ่ง เงินส่วนต่างงวดที่ 1-2 กับงวดที่ 3 บางส่วน ได้จ่ายให้กับเกษตรกรไปแล้ววงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 3 ที่เหลือ จะมาจ่ายให้ครบโดยเริ่มจ่ายวันนี้ (9 ธ.ค.) โดยจ่ายงวดที่ค้างอยู่ 5 งวดพร้อมกัน คือ งวดที่ 3 บางส่วน และงวด 4-7 รวมเป็นเงิน 64,847 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 8 จะจ่ายวันที่ 14 ธ.ค.2564 เป็นเงิน 3,720 ล้านบาท และงวดที่ 9-33 จะทยอยจ่ายทุก 7 วันจนครบ โดยงวดสุดท้าย วันที่ 27 พ.ค.2565
         
เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่าง สำหรับผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ สูงสุด 58,988 บาท ข้าวหอมนอกพื้นที่ สูงสุด 60,086 บาท ข้าวหอมปทุม สูงสุด 36,358 บาท ข้าวเปลือกจ้าว สูงสุด 67,603 บาท ข้าวเหนียว 71,465 บาท สามารถช่วยชาวนาได้ประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือน

         
สำหรับเงินก้อนที่ 2 คือ เงินในมาตรการคู่ขนาน ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเป็นเวลา 5 เดือน เพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากจนเกินไป ช่วยตันละ 1,500 บาท หรือสหกรณ์เก็บไว้จะช่วยตันละ 1,500 บาท และช่วยเหลือดอกเบี้ย ถ้าสหกรณ์เก็บข้าว 12 เดือน ช่วยดอกเบี้ย 3% ถ้าโรงสี เก็บข้าว 6 เดือน จะช่วยดอกเบี้ย 3% เพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากเกินไปและไปกดราคาข้าวในตลาด
         
ส่วนก้อนที่ 3 คือ ช่วยค่าบริหารจัดการหรือปรับปรุงคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท โดยจ่ายวันที่ 13 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป เป็นเงิน 53,871 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.7 ล้านครัวเรือน

สำหรับยางพาราจะเริ่มจ่ายงวดที่ 1-2 ในวันนี้ (9 ธ.ค.) เช่นเดียวกัน โดยงวดที่ 1 วงเงินประมาณ 900 ล้านบาท งวดที่ 2 วงเงิน 540 ล้านบาท รวม 1,440 ล้านบาทโดยประมาณ และจะจ่ายงวดที่ 3-6 ทุกเดือนจนถึงเดือนเม.ย.2565 งวดที่ 3 จะเริ่มจ่ายวันที่ 7 ม.ค.2565 วงเงิน 8,626 ล้านบาท ซึ่งยางพารามีเงินเตรียมไว้ 10,065 ล้านบาท ซึ่งวงเงินสูงสุดที่ได้รับเฉพาะงวดที่ 1-2 ยางแผ่นดิบสูงสุด 3,835 บาทต่อครัวเรือน น้ำยางข้น 2,975 บาท และยางก้อนถ้วยจะไม่ได้รับเงินส่วนต่าง