‘People Centric’ คัมภีร์ฝ่าวิกฤติ หนุน ‘เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ’ โตยั่งยืน

หลายทศวรรษที่ผ่านมาหลายคนคุ้นเคยคำว่า “Customer Centric” การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ยังไม่คุ้นชินกับคำว่า “People Centric” ซึ่งเป็นแนวคิดของ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” ที่ใช้ในการบริหารจัดการองค์กร โดยให้ความสำคัญในเรื่อง “คน” เป็นศูนย์กลาง เพราะเป็นฟันเฟืองฝ่าวิกฤติโควิดและขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ฉายภาพว่า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก  อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย(Residential) อุตสาหกรรม (Industrial) และพาณิชยกรรม (Commercial) บนแพลตฟอร์มเดียวกันตามกลยุทธ์One Platform ทำให้สามารถรองรับและต้านทานตัวแปรต่างๆ ในยามที่เศรษฐกิจผันผวน หรือได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะทำให้เกิดความยืดหยุ่นสามารถขับเคลื่อนธุรกิจฝ่าวิกฤติได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ในห้วงวิกฤติโควิด 2 ปีที่ผ่านมา เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯได้รับผลกระทบไม่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย กำลังซื้อผู้คนลดลง สวนทางพื้นที่เชิงอุตสาหกรรมกลายเป็น “ขาขึ้น” เนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซบูม แต่ธุรกิจที่กระทบหนัก คืออสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน เพราะคนทำงานที่บ้านมากขึ้น  ทำให้ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานลดลง 

ขณะเดียวกันมีการล็อกดาวน์ศูนย์การค้า จึงกระทบธุรกิจรีเทลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายธุรกิจไปต่อไม่ไหว ต้องลดค่าใช้จ่าย ลดคน และสุดท้ายปิดกิจการ แต่เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่

“เราไม่มีการเลย์ออฟพนักงาน ไม่ลดเงินเดือน แต่หันไปประหยัดด้านอื่นแทน เพราะเชื่อว่า ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งจากคน สอดคล้องกับแนวคิด People Centric ขององค์กร ที่มีความเชื่อว่า ธุรกิจจะต้องเดินหน้าไปพร้อมกับพนักงานและสังคม เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน”

ระหว่างที่เกิดวิกฤติโรคระบาด  FPT ดูแลพนักงานอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการจัดอบรมให้พนักงานมีความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยการ “อัพสกิล” และ “รีสกิล” ด้านต่างๆ เช่น Design Thinking, Branding, Fintech ฯลฯ และกิจกรรมพนักงาน (Employee Engagement) พร้อมทั้งจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 3 กว่า 1,500 โดส เสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างยั่งยืนในระยะยาว

จากการสำรวจพบว่า พนักงานพึงพอใจกับการดูแลของบริษัท สะท้อนจากผลลัพธ์ที่ได้ กล่าวคือ พนักงานมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น มีการระดมสมองในการช่วยบริษัทลดต้นทุน วางแผนงานเชิงรุกเพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ตลอดเวลา เป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการพัฒนาคนในองค์กร

ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,500 คนหลากหลายเจนเนอเรชั่น ตั้งแต่ Baby Boomer ถึงเจน Z โดยมีเจน Y และ เจน X มากที่สุด ที่ 60.2% และ 34.4% การสื่อสารกับพนักงานหลายช่วงอายุนับเป็นความท้าทาย แต่บริษัทฯเชื่อว่าหากมีการสื่อสารที่สม่ำเสมอและโปร่งใส จะช่วยให้ทุกเจนฯสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน

“แนวทางการบริหารพนักงานยุคนี้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม โดยเน้นให้ข้อมูลพนักงานได้รับรู้ถึงสถานการณ์ของบริษัท มีการประชุมในรูปแบบ Townhall ที่ซีอีโอจะมีการอัพเดทสถานการณ์ในองค์กร แชร์วิสัยทัศน์ เพื่อให้พนักงานเกิดแรงบันดาลใจ และก้าวไปข้างหน้ายังจุดหมายที่วางไว้”

ธนพล ย้ำว่า ในยุคนี้การขับเคลื่อนธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Environmental, Social, Governance: ESG) ไม่ใช่แค่ “Do well” บริษัทมั่นคง มีผลประกอบการที่ดี และผู้ถือหุ้นมีความสุขเท่านั้น แต่ยังต้อง “Do good” พอๆ กับการ Do well ด้วยการช่วยเหลือสังคมผ่านทางโครงการและกิจกรรมต่างๆ กับผู้คนภายนอกองค์กร ทั้งซัพพลายเออร์ ลูกค้า สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ องค์กรถึงจะอยู่รอดอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว 

“ช่วงวิกฤติโควิด-19 จำนวนผู้ป่วยโควิดล้น โรงพยาบาลเตียงเต็ม บริษัทได้แบ่งปันพื้นที่ในโรงงานและคลังสินค้า 11,050 ตารางเมตร โดยร่วมกับอมตะ คอร์ปอเรชัน จัดตั้งศูนย์พักคอยในนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่ 4,550 ตารางเมตร ในจังหวัดระยองและชลบุรี รองรับผู้ป่วยได้ 609 เตียง จัดตั้งโรงพยาบาลสนามบนพื้นที่ 6,500 ตารางเมตร ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา รองรับผู้ป่วยเพิ่มอีก 430 เตียง”

นอกจากนี้ ยังจัดสรรพื้นที่สามย่านมิตรทาวน์ 5,000 ตารางเมตร จัดตั้งศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด ตั้งแต่เดือน พ.ค.2564  ฉีดวัคซีนให้ประชาชนกว่า 98,000 คนรวมทั้งรับบริจาคโลหิตได้ทั้งสิ้น 729,450 ซีซี หรือ 2,084 ถุง  สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้มากกว่า 3 ส่วน โดยเลือด 1 ถุงสามารถช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต เพื่อสำรองให้เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย ท่ามกลางภาวะขาดแคลนโลหิต

จากแนวคิดของการยึดคนเป็นศูนย์กลางทำให้เกิด 11 โปรเจกต์ ที่ 3 กลุ่มธุรกิจภายใต้ One Platform รวมพลังช่วยเหลือสังคมผ่านกิจกรรมหลากหลายมิติ ซึ่งสามารถบรรเทาทุกข์ให้มากกว่า 321,700 ชีวิต ทั้งยังสนับสนุนพื้นที่ช่วยเหลือสังคมกว่า 16,050 ตารางเมตร ซึ่งรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 107 ล้านบาท

FPT ยังให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมในการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือการออกแบบอาคารต่างๆ จะต้องคำนึงถึงเรื่องการใช้พลังงาน จะสังเกตเห็นว่าอาคารของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ

แทบทุกแห่งผ่านการประเมิน Green Building มาตรฐานลีด (Leadership in Energy and Environmental Design : LEED) ที่ผ่านมา สามย่านมิตรทาวน์ ยังได้รับรางวัล ASEAN Energy Awards ตอกย้ำการเป็นผู้นำ

การพัฒนาอาคารอนุรักษ์พลังงานในระดับภูมิภาค รวมทั้งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารคลังสินค้า ยังได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย

"เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ จะยังคงมุ่งให้ความสำคัญอันดับต้นกับผู้คนรอบตัวเสมอ เราจะพัฒนาและดูแลบุคลากร ควบคู่ไปกับการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจและชุมชน ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป"ธนพลกล่าวปิดท้าย