สทนช. เปิดเวทีถกภาคประชาชนเร่งหาทางออกกรณี “เขื่อนสานะคาม”

สทนช.  เปิดเวทีถกภาคประชาชนเร่งหาทางออกกรณี “เขื่อนสานะคาม”

สทนช. ปัดเพิกเฉยปัญหาเขื่อนสานะคาม ยันป้องผลกระทบเขตแดนพร้อม เดินหน้าจัดเวทีร่วมถกภาคประชาชน หาข้อสรุปกรณีเขื่อนสานะคามที่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและวิถีชาวบ้านริมน้ำโขง

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยกรณีมีการกล่าวอ้าง    ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ว่า สทนช.ไม่ดำเนินการเพื่อแสดงท่าทีของประเทศในข้อห่วงใยกรณีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว

ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมา สทนช.ให้ความสำคัญและเน้นย้ำการดำเนินงานเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในลำน้ำโขง และแสดงท่าทีในขั้นตอนตามกรอบความร่วมมือเวทีลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ ฉันท์มิตรประเทศ รวมถึงกลไกอื่น ๆ ที่สามารถนำมาขับเคลื่อนได้

โดยเฉพาะกรณีเขื่อนสานะคาม ซึ่งมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับพรมแดนลาว-ไทย ฝ่ายไทยได้ยืนยันท่าทีประเทศไทยทั้งในการประชุมคณะกรรมการร่วม(JC) และคณะทำงานด้านเทคนิคคณะกรรมการร่วม (JCWG) ของสมาชิกลุ่มน้ำโขงตอนล่าง 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม และไทย ทุกครั้งตั้งแต่มีการดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติเรื่องการแจ้งการปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลงโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคามของลาว (PNPCA)

มีประเด็นหารือที่สำคัญ คือ การพิจารณาร่างรายงานการทบทวนทางเทคนิค (TRR) เขื่อนสานะคาม ซึ่งที่ประชุมมีมติให้นำกลับไปทบทวนในรายละเอียดให้รอบด้านอีกครั้ง

เนื่องจากมีหลายประเด็นข้อสรุปที่ได้ยังไม่มีความชัดเจนที่เป็นรูปธรรมที่จะทำให้ประเทศสมาชิกเกิดความมั่นใจต่อโครงการดังกล่าวได้ โดยเฉพาะข้อมูลอุทกวิทยา การบริหารจัดการเขื่อนที่จะมีผลต่อระดับน้ำ ความเร็วของน้ำ การกัดเซาะ การพัดพาตะกอน ที่จะทำให้ส่งผลระบบนิเวศ และร่องน้ำของชายแดนไทย-ลาว เป็นต้น

 

 

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไทยได้หยิบยกในหลากหลายประเด็นที่จะส่งผลกระทบกับประเทศท้ายน้ำที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งประเทศเจ้าของโครงการต้องไปทบทวนปรับปรุงร่างรายงานทางเทคนิคให้ครอบคลุมตามข้อสังเกตุของประเทศสมาชิกก่อนเข้าสู่กระบวนการอื่นๆ ต่อไป รวมถึง สทนช.ได้พยายามเพิ่มเวทีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการบริหารแม่น้ำโขงในประเทศ  "

โดยในวัน17 ธ.ค.64 สทนช.กำหนดจัดเวทีเสวนา “ล้อมวงคนริมโขง กรณีเขื่อนสานะคาม” ณ หอประชุมโรงเรียนเชียงคาน ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลการดำเนินงานของ สทนช. กรณีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว ต่อสาธารณชน

 

รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับทราบความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว.ด้วย และเวทีดังกล่าว มิได้เป็นการดำเนินการตามกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าของเขื่อนสานะคามแต่อย่างใด”