ปรับขึ้น เก็งกำไร RBF COM7 CENTEL (16 ธ.ค. 64)

และปัจจัยบวก คือ ผลประชุมเฟดลดปริมาณทำ QE ต่อเดือน ตามคาด ส่งผลบวกต่อการแรลลี่ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ ส่วนไฮไลท์สำคัญวันนี้ จับตาผลประชุมธนาคารกลาง ECB BOE ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และรายงานภาคการผลิตและบริการเดือน ธ.ค. เบื้องต้น ของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ USA EU UK Japan Australia

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

        KTZ Portfolio: Small Cap (M SGP TPIPL ผลตอบแทน +1% ); Big Cap (GULF RBF CK TCAP JMT CENTEL ADVANC GUNKUL MEGA MINT ผลตอบแทน +4.1%)

       +/-หลักทรัพย์ที่คาดว่าจะเพิ่มหรือถอดออกจากคำนวณ SET50/SET100 Index งวด 1H22: SET50 Index เพิ่ม TIDLOR BANPU KEX ถอด BJC DELTA STA / SET100 Index เพิ่ม TIDLOR KEX BPP STARK BLA RCL EPG DCC TTA SIRI ถอด AAV BJC DELTA ICHI JAS NRF PRM PSL RS TKN

 

ปัจจัยบวก

FOMC: ผลประชุมเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.25% และปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรและ MBS จากปัจจุบัน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มต้นเดือน ม.ค. 2022 (ตามคาด)

 

ปัจจัยลบ คือ

Monetary Risks: ECB Meeting คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 0% แต่ส่งสัญญาณยุติโครงการทำ QE (Pandemic Emergency Purchase Program ในเดือน มี.ค. 2022) และ BOE Meeting คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.25% จากเดิม 0.1%

 

 

 

 

 

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

        - Opportunity Day: TAKUNI MENA THANI TOG SMPC

        - ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศรายชื่อหุ้นคำนวณใหม่ในดัชนี SET50 / SET100 Index งวด 1H22E ใน 1-2 วันนี้

        - ผลประชุมธนาคารกลาง ECB BOE คาดส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน เพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้อ / ผลประชุมธนาคารกลาง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ยที่ 2% และ 3.5% ตามลำดับ

        -  รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ธ.ค. Australia, Japan, EU, UK, USA

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ดัชนีตลาดฯ ผันผวน Sideways Down กรอบ 1622.49-1630.89 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1623.66 จุด -6.98 จุด วอลุ่ม 6.31 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.4% ขนส่งและโลจิสติกส์ -1.14% การแพทย์ -0.98% ธนาคาร -0.59% หุ้นบวก >4% BROOK BIG TEAM YGG BYD AKR STPI JTS SECURE NEX NUSA AH LEO หุ้นลบ > 4% JAS RCL GJS ETC HENG HUMAN

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ส่วนหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA +1.08% S&P500 +1.63% NASDAQ +2.15% หลังเฟดมีมติตามคาด (คงดอกเบี้ยและปรับลด QE เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และสภาฯ ผ่านร่างเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตาย ทำให้หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX +0.15% CAC40 +0.47% FTSE -0.66% นำขึ้นโดยกลุ่มเทคฯ และ Healthcare ส่วนหุ้นอังกฤษติดลบ จากความกังวลเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าคาด 5.1% และกดดันให้ BOE ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองร่วงต่อ: WTI +14 เซนต์ ปิดที่ USD70.87/บาร์เรล Brent +18 เซนต์ ปิดที่ USD73.88/บำร์เรล หลังรายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนลดลงมากกว่าคาด (ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล Vs คาดลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำลดลง -USD7.80 ปิดที่ USD1,764.50/ออนซ์ หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น

 

 

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญ
 

- กลุ่มสื่อ: เม็ดเงินโฆษณาเดือน พ.ย. 2021 ฟื้นตัว MoM ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อยู่ที่ 8,158 ล้านบาท (-9% YoY, +5% MoM) โดยสื่อทีวี +3% MoM และสื่อนอกบ้าน +20% MoM (+PLANB WORK)

- FED: FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% และเพิ่มการปรับลดวงเงินโครงการซื้อพันธบัตร เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2022 ส่วน Dot Plot ส่งสัญญำณ 1. ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ โดยปี 2021E ลดลงเป็น 5.5%(เดิม 5.9%) ปี 2022E +4% (เดิม 3.8%) ปี 2023E +2.2% (เดิม 2.5%) 2. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น (เดิม 9/18 รำย คาดขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้ง ในปี 2022) โดยคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 2022 (12/18 ราย) อีก 3 ครั้ง ในปี 2023 และอีก 2 ครั้ง ในปี 2024 3. ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2021 เป็น 5.3% (เดิม 4.2%) ปี 2022 +2.6% (เดิม 2.2%) ปี 2023 +2.1% (เท่าเดิม) ส่วนอัตราว่างงานปี 2021 อยู่ที่ 4.3% (เดิม 4.8%) ปี 2022 +3.5% (เดิม 3.8%) และปี 2023 +3.5% (เท่าเดิม)

- UK: รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. อยู่ที่ 5.1% YoY สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 4.7% YoY ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ +4.0% YoY สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 3.7% YoY

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TCAP ADVANC CK

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: RBF COM7 CENTEL

Derivatives: แนะถือ Long S50Z21 รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)