CKP - คาดกำไร 4Q โตดี yoy (วันที่ 21 ธันวาคม 2564)
ปริมาณน้ำที่เขื่อน XPCL และ NN2 สูงขึ้นใน พ.ย. และเราคาดว่ากำไร 4Q จะฟื้นตัว yoy หนุนจาก (1) ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นที่ NN2 และ (2) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น XPCL ที่สูงขึ้น
มีความคืบหน้าที่โครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบางซึ่งเราคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ CKP ประมาณ 2.2 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาทต่อหุ้น
กำไร 4Q โตดี yoy
(XPCL) เพิ่มขึ้น 28% yoy เป็น 2,917 ลบ.ม. ในพ.ย. และที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 (NN2) เพิ่มขึ้น 34% yoy เป็น 231 MCMs ขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าเบื้องต้นของ NN2 ในธ.ค. อยู่ที่ 119 GWh ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ NN2 จะแตะระดับ 364GWh ใน 4Q เพิ่มขึ้น 237% yoy หากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ XPCL ในธ.ค. ทรงตัว yoy ที่ 507GWh ทำให้การผลิตไฟฟ้ารวมที่ XPCL ใน 4Q อยู่ที่ 1,714GWh ลดลง 8% yoy แต่ CKP จะมีส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าที่สูงขึ้นที่ 415 ลบ. ใน 4Q21F เทียบกับ 145 ลบ. ใน 4Q20 หนุนโดย (1) สัดส่วนการถือหุ้น XPCL เพิ่มจาก 37.5% เป็น 42.5% และ (2) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง ดังนั้นเราคาดว่า CKP จะมีกำไรสุทธิ 450 ลบ. จากการดำเนินงานใน 4Q21F เทียบกับกำไร 8 ลบ. ใน 4Q20
แผน PDP ปี 2022 ใหม่หนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายของรัฐบาลต่อภาวะโลกร้อน ที่จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ภายในปี 2065-2070 ล่าสุดวันที่ 28 ต.ค. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมีมติเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาด โดยเพิ่มปริมาณไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในต่างประเทศจากแผน PDP เดิมปี 2018 Rev.1 ที่ 1,400MW เป็น 2,766MW หรือเพิ่มขึ้น 1,366MW สอดคล้องกับที่ CKP พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางในลาวกำลังการผลิต 1,460MW
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาทต่อหุ้น
เราคงคำแนะนำ ซื้อ CKP จาก (1) อัพไซด์ที่น่าสนใจ, (2) ภาพเชิงบวกใน 4Q, และ (3) มุมมองบวกระยะยาวต่อนโยบายพลังงานสะอาด โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ขณะที่เราประเมินว่าโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางจะเพิ่มมูลค่าให้ CKP ประมาณ 2.2 บาทต่อหุ้น