กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ 27-30 ธันวาคม: ไซด์เวย์ต่อ ก่อนหยุดยาวช่วงปีใหม่
ในสัปดาห์ที่แล้ว (20-24 ธันวาคม) ตลาดไทยผันผวนค่อนข้างมาก แต่ระดับปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม
โดยในช่วงต้นสัปดาห์ ดัชนี SET ย่อตัวลงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราเร็วของการแพร่ระบาดสายพันธุ์ Omicron และรายงานข่าวว่าประเทศไทยกลับมาใช้กระบวนการกักตัวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีรายงานทางการแพทย์หลายชิ้นที่ยืนยันว่าอัตราการเข้าโรงพยาบาลจากผู้ที่ติดเชื้อ Omicron ต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดรอคอยมานานออกมา ในขณะที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้เท่าเดิมที่ 0.50% ตามคาด ในการประชุมวันที่ 22 ธันวาคม และปรับประมาณการ GDP ใหม่เพื่อสะท้อนถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ออกมา และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสายพันธุ์ Omicron ซึ่งส่งผลให้ประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 0.7% เป็น 0.9% แต่ประมาณการของปี 2565 ลดลงจาก 3.9% เหลือ 3.4%
ในสัปดาห์นี้ (27-30 ธันวาคม) ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะขยับอยู่ในช่วงแคบ ๆ โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับสายพันธุ์ Omicron เพิ่มเติมจากสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ตามปกติแล้วช่วงใกล้สิ้นปี กระแสเงินลงทุนในหุ้นจากต่างชาติมักจะชะลอตัวลง ในขณะที่นักลงทุนในประเทศบางรายน่าจะรอดูสถานการณ์ไปก่อนท่ามกลางความกังวลในระยะสั้นสองสามประเด็น โดยประเด็นแรกคือความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ Omicron ในประเทศไทยจะรุนแรงมากขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่ ประเด็นที่สอง ตลาดหุ้นในประเทศน่าจะเผชิญแรงกดดันบางส่วนจากการขายหน่วยลงทุนของกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ออกมาหลังจากที่พ้นช่วง lock-up 7 ปีไปแล้ว ทั้งนี้ เมื่ออิงตามฐานข้อมูลของ AIMC มีเงินทุนไหลเข้า LTF สุทธิประมาณ 6 หมื่นล้านบาทในปี 2559
กระแสข่าวโรคระบาดในยุโรป และข้อมูลเศรษฐกิจของ ธปท. จะเป็นปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(0/-) ควงามเสี่ยงที่สถานการณ์การระบาดของ Omicron ในยุโรปจะเลวร้ายลง ในช่วงหลายวันมานี้
ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในอังกฤษ และฝรั่งเศส ทะลุ 100,000 คนไปแล้ว และทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่
รัฐบาลของทั้งสองประเทศจะประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในสัปดาห์นี้ หรือหลังปีใหม่ เรา
คิดว่าภาวะตลาดที่อ่อนแอในยุโรปอาจจะฉุดให้เงินสกุลยูโรอ่อนค่าลง และทำให้ดัชนี US dollar index
ดีดตัวขึ้น
(0) ข้อมูลเศรษฐกิจไทยเดือนพฤศจิกายนน่าจะยังแข็งแกร่ง ในวันที่ 30 ธันวาคม ธนาคารแห่งประเทศ
ไทยจะเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเรามองว่าโมเมนตั้มของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยัง
ดูแข็งแกร่ง MoM เนื่องจากการเปิดประเทศเดินหน้าไปด้วยดีในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ดัชนี
เศรษฐกิจสำคัญมีแนวโน้มทรงตัว YoY เพราะในเดือนพฤศจิกายน 2563 กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนิน
ไปอย่างคึกคัก และไม่มีรายงานการติดเชื้อ COVID-19 มากนัก
สำหรับแนวโน้มในระยะสั้น เรายังคงชอบหุ้นกลุ่ม ICT, ที่อยู่อาศัย และ ผู้บริโภค
เนื่องจากเรามองว่าตลาดหุ้นน่าจะย่อตัวลงอีกในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 เราจึงแนะนำให้นักลงทุนยังอยู่ในโหมด defensive ต่อไป และใช้กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นแบบ barbell ซึ่งจะเป็นธีมการลงทุนหลักของเราใน 1Q65 โดยหุ้นกลุ่มที่เราชอบได้แก่ ICT, ที่อยู่อาศัย และผู้บริโภค ได้แก่ ADVANC*,LH*, PSH*, HMPRO* และ COM7* สำหรับหุ้นกลุ่มที่ beta สูง เรายังคงชอบธนาคารขนาดใหญ่ที่มีจุดแข็งในเชิง digitalization อย่างเช่น SCB* และ KBANK*