9 เทรนด์มาแรง ของชาว Gen-Z ปี 2022 จาก Instagram

9 เทรนด์มาแรง ของชาว Gen-Z ปี 2022 จาก Instagram

ชวนส่อง 9 เทรนด์ความนิยมของกลุ่ม “Gen-Z” ปี 2022 นี้ “Instagram” ชี้ว่าการช้อปปิ้ง ความงาม เพลง แฟชั่น มีม การศึกษา และอีกหลายเรื่อง มีอะไรที่จะมาแรงในหมวดหมู่เหล่านี้บ้าง?

ทุกวันนี้ เทรนด์ ความนิยม และพฤติกรรมผู้บริโภค ในสังคมได้รับอิทธิพลจากเด็กรุ่นใหม่ๆ กลุ่ม “Gen-Z” อย่างมาก ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนกลุ่มนี้มีความเป็นตัวของตัวเอง ยอมไม่ได้กับความไม่เท่าเทียมกันในสังคม แถมยังเปลี่ยนนิยามความหมายหลายๆ อย่างในชีวิตใหม่ รวมถึงการรักษาสุขภาพกาย-ใจ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก่อน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนส่อง 9 เทรนด์ความนิยมของกลุ่ม “Gen-Z” ปี 2022 นี้ “Instagram” ชี้ว่าการช้อปปิ้ง ความงาม เพลง แฟชั่น มีม การศึกษา และอีกหลายเรื่อง มีอะไรที่จะมาแรงในหมวดหมู่เหล่านี้บ้าง?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ทางบริษัท “Instagram” ได้เปิดเผยเทรนด์ความนิยมและพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม “Gen-Z” (อายุ 13-24 ปี) ที่คาดว่าจะกำลังมาในปีหน้า ผ่านทางรายงาน “Trend Report: Shaping Culture in the next year 2022” เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 มีความน่าสนใจ สามารถนำไปปรับใช้กับการทำธุรกิจและแผนการตลาดได้อย่างไรบ้าง?

1. ด้านการช้อปปิ้ง

การช้อปปิ้งแบบที่ต้องใช้เทคโนโลยี AR อาจได้รับความนิยมสูงขึ้น (สามารถมองเห็นสินค้าได้ทุกมิติและทุกมุมมอง) เพราะไม่ว่าอย่างไร การช้อปออนไลน์จะยังคงต่อเนื่องไปยาวๆ และการได้รับประสบการณ์ที่รู้สึกเสมือนจริง จะทำให้ผู้ซื้อเกิดความไว้วางใจในตัวสินค้าง่ายขึ้นกว่าเดิม

โดยวัยรุ่นกว่าครึ่งคาดหวังว่าจะสามารถช้อปปิ้งตรงจากฟีดโซเชียลมีเดียได้เลย หรือผ่านแอพพลิเคชั่นที่ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้สินค้ามือสองยังเป็นที่น่าสนใจในคนกลุ่มนี้ และการขายเสื้อผ้าต่อให้คนอื่นนั้น มีจุดประสงค์เพื่อให้โลกเกิดความยั่งยืนมากขึ้นด้วย

ปล.แฮชแท็กเกี่ยวกับการช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2021 ได้แก่ #shopsmall, #shoplocal, #shopssmallbusinesses และ #sustainablefashion

2. ด้านอุตสาหกรรมเพลง

การผลิต “เพลง” ทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ใช้หูฟังเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ในปีที่ผ่านมาทำให้เห็นได้ว่า “เพลงแบบวีดิโอสั้น”, “เพลง-อัลบั้มที่มีวิชวลกับกราฟิกที่น่าสนใจ” และ “เพลงที่สามารถนำไปต่อยอดทำเป็นชาเลนจ์เต้นแข่งกัน” 3 สิ่งนี้กำลังเป็นที่น่าสนใจและจะได้รับความนิยมในหมู่ Gen-Z ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าอีกด้วย

วัยรุ่นสมัยนี้ชอบเพลงที่มีการนำเสนอกราฟิกสวย โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้การออกไปดูคอนเสิร์ตแบบสดไม่ได้ การนำเอากราฟิกเข้ามาช่วยทำให้เพลงมีความน่าสนใจมากขึ้น จึงทำให้รู้สึกน่าตื่นตาตื่นใจกว่าปกติทั่วไป ในอนาคต หากได้จัดคอนเสิร์ตในอนาคต คาดหวังว่าจะได้เห็นลูกเล่นของภาพกราฟิกเฉิดฉายอยู่บนเวทีด้วย

นอกจากนี้เรื่องเพลงที่สามารถนำไปทำเป็นชาเลนจ์เต้นแข่งต่อได้ ในปีหน้าชาว Gen-Z อยากจะได้เห็นชาเลนจ์เต้นที่มีความท้าทายมากขึ้น มีการพัฒนาสไตล์การเต้นให้โหดขึ้นไปกว่าเดิมอีก

3. เซเลบริตี้ คนดัง และคอนเทนท์ครีเอเตอร์

ทุกวันนี้พวก “ครีเอเตอร์ออนไลน์” เช่น อินฟลูเอนเซอร์ หรือยูทูปเบอร์ มีการพัฒนาการสร้างคอนเทนท์ของตนเองไปในระดับที่สูงมากขึ้น เพราะความนิยมในการรับชมคอเทนท์จากคนเหล่านี้ มีมากขึ้นถึง 83%

โดยเฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์ออนไลน์ที่มีอายุ 13-24 กลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะมีความเป็นตัวของตัวเอง (เซลฟ์จัด) มั่นใจในตัวเองสูง ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้มีอิทธิพลโน้มน้าวให้ผู้ชมคิดเห็นไปในทางเดียวกัน รวมถึงยังทำให้ผู้ชมอยากช่วยแชร์ข่าวต่ออีกด้วย

ขณะเดียวกัน ดาราจอแก้ว หรือเซเล็บแบบเก่าที่มีพื้นที่บนสื่อบันเทิงอย่างเป็นทางการ แม้จะมีอิทธิพลต่อการชมสื่อ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการชักจูงให้ออกมาขับเคลื่อนสังคมได้มากเท่าเหล่าครีเอเตอร์ ออนไลน์ เพราะคนเหล่านี้สร้างคอนเทนท์ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิด เปรียบเสมือนเพื่อนนั่งคุยกันแบบเข้าอกเข้าใจ จึงได้ใจผู้ชมไปง่ายกว่าดาราที่อยู่บนจอที่ให้ความรู้สึกห่างไกล สื่อสาไปไม่ถึงกัน

4. การศึกษาและอาชีพ

จากการระบาดของโรคร้ายที่ทำให้สังคมเปลี่ยนไป ทำให้คนรุ่นใหม่เปลี่ยนนิยามและวิธีการคิดเรื่อง “ความสำเร็จ” ใน “การศึกษาและการทำงาน” ให้แปลกและแตกต่างไปจากความคิดกรอบเดิมๆ 

โดยเด็กสมัยนี้มีแนวคิดว่า “การศึกษาที่ดีที่สุดมาจากประสบการณ์โลกจริง” โดยบางกลุ่มคนเลือกที่จะเดินใน “เส้นทางเฉพาะทาง” ไปเลย และคิดว่า “การศึกษาในระบบไม่สำคัญแล้ว

นอกจากนี้นิยามของ “ความสำเร็จในการงาน” ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างแรง เด็กสมัยนี้จะไม่อนุญาตให้งานเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากเกินไป ถ้าเมื่อไหร่งานที่ทำอยู่ถูกบังคับให้ทำ จะรู้สึกไม่มีความสุขทันที 

เด็กๆ จึงมีแนวคิดว่า “งานไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต” แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสำคัญคือ “การได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ แม้ว่าจะมีรายได้น้อยกว่าก็ตาม” นั่นทำให้เด็ก Gen-Z กว่า 87% มักจะต้องทำงานเสริมเพิ่มเติมอยู่ดี เพราะเงินจากรายได้หลักมีไม่เพียงพอต่อการครองชีพ

5. ด้านอาหารและเครื่องดื่ม 

จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เกือบร่วม 3 ปี ที่ทำให้คนต้องอยู่แต่ในบ้าน ทำให้หลายคนปลดล็อกสกิล “การทำอาหารที่บ้าน” ได้ดีทีเดียว

โดยเฉพาะคนกลุ่ม Gen-Z ที่ในปีหน้าคาดว่าจะมีการลงทุนกับการทำอาหารมากขึ้น เช่น จะท้าทายตัวเองด้วยการทำอาหารที่มีขั้นตอนซับซ้อนขึ้น ทำอาหารที่ยากกว่าปกติ อบขนมเบเกอรี่ หรืออยากลองแต่งหน้าอาหารให้ดูแฟนซีมากขึ้นกว่าเดิม 

นอกจากนี้คนที่อายุมากกว่า 21 ปีขึ้นไป ยังสนใจที่จะชง “เครื่องดื่มค็อกเทลหรือแอลกอฮอล์” ด้วย และจะพยายามไปหาแหล่งซื้อวัตถุดิบใหม่ๆ ที่หายาก ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าคน Gen-Z มีแนวโน้มที่จะผลักดันตัวเองให้มีทักษะการทำอาการที่หลากหลายขึ้น เพราะรู้สึกสนุกในการลงมือทำ

ปล.แฮชแท็กเกี่ยวกับอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2021 ได้แก่ #food, #comfortfood, #veganfoodies และ #foodblogger

6. การดูแลรักษาสุขภาพ

การให้ความสำคัญกับ “การดูแลรักษาสุขภาพ” ของวัยรุ่นทุกวันนี้เปลี่ยนไป เมื่อก่อนอาจจะนิยมแค่ออกกำลังกายทั่วไป แต่ทุกวันนี้วัยรุ่นให้ความสำคัญกับ “การรักษาสุขภาพแบบองค์รวม” คือการรักษาสมดุลสุขภาพกายและสุขภาพใจ ควบคู่กันไป

หากพูดถึงสุขภาพกายการออกกำลังกาย” โดยเฉพาะ “การออกกำลังกายที่บ้าน” จะเป็นสิ่งที่ผู้คนยังคงนิยมทำมากขึ้นในปีหน้า 

แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 บางประเทศจะดีขึ้น แต่จากรายงานชี้ให้เห็นว่า คนยังอยากออกกำลังกายที่บ้านเองถึง 48% โดยให้เหตุผลว่า การออกกำลังกายที่บ้านช่วยลดค่าใช้จ่าย(ที่ดูจะไม่จำเป็น)ไปได้มาก

นอกจากนี้กิจกรรมที่ช่วยเยียวยาให้มีสุขภาพใจที่ดีขึ้น ได้แก่ การทำเวิร์คช็อปศิลปะ, วาดภาพ, เพนท์สี, ถักโครเชต์, แต่งเพลง และแต่งบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ “การแต่งบ้านหรือปรับปรุงบ้านใหม่” เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำมากที่สุดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะต้องกักตัวอยู่แต่บ้าน และเมื่ออยู่บ้านไปนานๆ ก็อาจเบื่อสภาพแวดล้อมเดิมๆ ได้ จึงต้องแต่งบ้านให้มีสภาพแวดล้อมดูดี น่าอยู่เป็นระยะเวลานาน โดยส่วนใหญ่นิยมแต่งบ้านให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable & Eco-friendly)

7. ด้านการเล่นเกม

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เมื่อคนเล่น “เกม” จะเปรียบเสมือนตัวเองได้อยู่ในพื้นที่คอมมูนิตี้ มีประสบการณ์คล้ายไปพบปะคนในพื้นที่สาธารณะโลกจริง

ยิ่งถ้ายังต้องมีการกักตัวและต้องเว้นระยะห่างทางสังคมอยู่ ก็ดูมีท่าทีที่ชัดเจนว่าความนิยมในการเล่นเกม น่าจะไม่ตกลงในเร็วๆ นี้ 

อีกทั้งการเล่นเกมทุกวันนี้ นับเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าตนเอง “มีตัวตน” จึงชอบการเล่นเกมเข้าไปใหญ่ ถ้าเปรียบกับแอพหาคู่ เกมก็เหมือนเป็นพื้นที่ที่ได้หาคอนเนคชั่น เป็นที่แฮงค์เอาท์ และเป็นสังคมที่สร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์อีกแพล็ตฟอร์มหนึ่ง

นอกจากนี้ การดู “คลิปแคสเกม” ยังเป็นสิ่งที่จะนิยมมากขึ้นในปีหน้าอีกด้วย ยิ่งถ้าได้ดูไลฟ์สตรีมมิ่งเล่นสดจะยิ่งได้รับความสนใจอย่างแรง

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อสกุลเงินดิจิทัล คริปโทฯ เมตาเวิร์ส กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตทุกคน “แฟชั่น” ก็เป็นสิ่งเข้ามาอยู่ในโลกของเกมด้วย

โดยจากรายงานชี้ให้เห็นว่า ภายในปีหน้า การซื้อไอเท็มเสื้อผ้าแบรนด์เนมในเกมอาจได้รับความนิยมสูงขึ้นถึง 50% เพราะเกมเมอร์ระดับทั่วไป (ที่ไม่ใช่ระดับเล่นเกมเอาจริงเอาจัง) อยากให้ "อวาตาดิจิทัล" ของตนเองโดดเด่นไม่แพ้คนอื่นในเกม

8. มีม

ทุกวันนี้วัยรุ่น 1 ใน 5 ให้ความสำคัญกับการดู “มีม” มากเป็นพิเศษ และหลายคนชอบเก็บสต็อกมีมเพื่อนำมาหยอกล้อเสียดสีสังคมเป็นประจำ อีกทั้งยังอยากเห็นมีมแปลกใหม่เรื่อยๆ ตลอดเวลาด้วย

บางคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์ เป็นคนมีอารมณ์ขันมักจะตั้งใจสร้างมีมโดยเฉพาะ ซึ่งการทำมีมถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว เหมือนกับคนที่มีหัวในการคิดประดิษฐ์คำเพื่อการโฆษณาการค้า 

ทั้งนี้ในปัจจุบัน นอกจากมีม จะมีอยู่ในลักษณะรูปภาพธรรมดาแล้ว ทุกวันนี้ยังมีมีมแบบภาพเคลื่อนไหว เป็นคลิป หรือข้อความสนทนาอีกด้วย หรือถ้าอะไรก็ตามที่ดูแล้วให้ความบันเทิงใจ ก็นับว่าเป็นมีมเช่นกัน

9. ความยุติธรรมในสังคม

คนกลุ่ม Gen-Z ให้ความสนใจกับแอคเคานต์ประเภท “นักเคลื่อนไหวทางสังคม” หรือคอนเทนท์ประเภท “การแสดงจุดยืนประเด็นทางสังคม” หากมีการแอคทีฟบ่อยๆ จะยิ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

ในปีหน้าคนกลุ่มนี้จะไม่หยุดเคลื่อนไหวทางสังคม แถมยังจะช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือแก่นักเคลื่อนไหวถึง 37% ด้วย และคนกลุ่มนี้จะใช้ความเพียรพยายามในการชี้ให้เห็นสาเหตุ เพื่อให้สิ่งนั้นๆ ได้รับการเปลี่ยนแปลง และคาดหวังว่าจะได้เห็นความยุติธรรมในสังคมมากกว่าเดิม 

เรื่องนี้มีผลสำคัญมาก เพราะสังเกตเห็นได้ว่า บางประเทศอย่างสหรัฐฯ คน Gen-Z ได้ออกมาใช้สิทธิ์ ลงคะแนน ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ จากการเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงให้สังคมเป็นไปในทางที่ดีซึ่งมีส่วนช่วยมากขึ้นจริงถึง 18% จากรายงานในปีที่ผ่านมา

------------------------

อ้างอิง: Instagram, Trend Report: Shaping Culture in the next year 2022