กรมศุลกากร "มอบของขวัญปีใหม่" 2565 เช็ครายอะเอียดที่นี่!

กรมศุลกากร "มอบของขวัญปีใหม่" 2565 เช็ครายอะเอียดที่นี่!

อัพเดท "รัฐบาลแจกของขวัญปีใหม่ 2565" เปิดกล่อง “ของขวัญปีใหม่” พ.ศ.2565 ของกรมศุลกากร ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้ผู้จัดตั้ง และผู้ประกอบกิจการเขตปลอดอากร และขยายระยะเวลาการนำของเข้าเพื่อผ่านแดนหรือถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักร

ติดตามความคืบหน้า "รัฐบาลแจกของขวัญปีใหม่ 2565" ภายหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำแผนงานต่างๆ เพื่อเป็นการแจก "ของขวัญปีใหม่" 2565 ให้กับประชาชนและได้เสนอ ครม. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ในช่วง "ปีใหม่ 2565" นั้น

ล่าสุด วันนี้( 29 ธ.ค.64) นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ได้มอบของขวัญปีใหม่ 2565 เพื่อเป็นการลดภาระและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ด้วยการเสนอกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับปี 2565 ให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายใดที่เสียค่าธรรมเนียม รายปี 2565 ไว้แล้ว สามารถขอคืนได้ที่สำนักงานศุลกากร หรือด่านศุลกากร ที่กำกับดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาตและเขตปลอดอากร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นอกจากนี้ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรทั้งหมด หรือแต่บางส่วน สำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำหรือของที่ตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 103 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำในด้านการปฏิบัติพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับการนำของเข้ามา เพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักร อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

โดยให้ผู้นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำแสดงหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่เป็นเหตุให้ไม่อาจปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา 102 วรรคสอง และมาตรา 103 ต่ออธิบดีกรมศุลกากร เพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินการดังกล่าวได้ตามความจำเป็นสำหรับกฎกระทรวงทั้งสองฉบับดังกล่าว ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อรัฐมนตรีลงนาม และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

นอกจากนี้ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้

1. การขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อการรักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ ตามรายการที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565

2. การขยายระยะเวลาการผ่อนผันให้ผู้นำเข้าสามารถใช้สำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าและคำรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 149/2564 ลงวันที่ 21 กันยายน 2564

3. การขยายระยะเวลายกเว้นอากรสำหรับของที่นำเข้ามาผลิตเป็นหน้ากาก ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565

4. การขยายระยะเวลาการขอทุเลาการเสียอากรในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นคำขอทุเลาการเสียอากร กรณีที่ต้องเสียค่าภาษีอากรเพิ่ม ให้สามารถยื่นหนังสือประกันตนเองของนิติบุคคล หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารฉบับเดิม มาใช้เพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักประกันการชำระอากรได้ ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 154/2564 ลงวันที่ 27 กันยายน 2564

5. การลดเงินเพิ่มให้กับผู้ประกอบการที่นำของเข้าหรือของออก ซึ่งชำระอากรไว้ไม่ครบถ้วนโดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียอากร และได้นำอากรที่ยังชำระไม่ครบถ้วนมาชำระต่อกรมศุลกากรภายในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 โดยลดเงินเพิ่มเหลือร้อยละศูนย์จุดสองห้าต่อเดือนของอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่มนับแต่วันที่นำของออกไปจากอารักขาของศุลกากรหรือส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรจนถึงวันที่ชำระ ทั้งนี้ การนับระยะเวลาเพื่อคำนวณเงินเพิ่มดังกล่าว เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน

6. การงดหรือลดเบี้ยปรับ โดยงดหรือลดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกซึ่งไม่เสียอากรภายในกำหนดโดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียอากร และนำเงินอากรที่ต้องเสียตามแบบแจ้งการประเมินอากรมาชำระต่อกรมศุลกากร ภายในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565