“มาม่า”ยันไม่ปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค

“มาม่า”ยันไม่ปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค

“จุรินทร์” แจ้งข่าวดี! บะหมี่สำเร็จรูป”มาม่า”ไม่ปรับราคา แม้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน พร้อมสั่งดูแลสินค้าอื่นช่วยตรึงราคาสินค้า

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายลดค่าครองชีพให้ประชาชนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดผู้บริหารของบริษัท ไทยเพรสซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา “มาม่า” ได้ยืนยันกับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคามาม่าซอง ซึ่งเป็นสินค้ามวลชน และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดทั้งประเทศ เพื่อเป็นการร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนคนไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน

“มาม่า”ยันไม่ปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค

“ ทางผู้ผลิตมาม่ายืนยันว่าจะไม่ขึ้นราคา เพราะอยากจะเป็นผู้นำในการร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์  ในการไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ว่าต้นทุนในการผลิตจะเพิ่มขึ้น ทั้งราคาน้ำมันปาล์ม และแป้งข้าวสาลี โดยทางผู้ผลิตจะบริหารจัดการต้นทุนและเกลี่ยต้นทุนภายในเอง เพื่อไม่ให้ต้องปรับขึ้นราคาจนกระทบกับผู้บริโภค ถือว่าเป็นข่าวดีและกระทรวงพาณิชย์จะแสวงหาความร่วมมือกลับทุกฝ่ายเพื่อตรึงราคาและลดค่าของชีพให้กับประชาชน” นางมัลลิกากล่าว

 

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ยังได้มอบนโยบายให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ไปหารือกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยให้เน้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ปัจจุบันต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อ ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบน้ำมันปาล์ม และแป้งข้าวสาลี ที่ราคาขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2564 และการที่มาม่ายืนยันไม่ปรับขึ้นราคา มีเหตุผลเพราะไม่ต้องการสร้างภาระด้านค่าครองชีพให้กับประชาชนอีก โดยจะใช้วิธีการบริหารจัดการภายใน เพื่อลดต้นทุนในด้านอื่น ๆ ลงมา เพื่อคงราคาจำหน่ายเดิมไว้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของต้นทุนภายนอก ที่เกิดขึ้นจากนโยบายรัฐ และไม่สามารถบริหารจัดการได้เอง ก็อยากที่จะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยดูแล ทั้งการพิจารณาเรื่องการขึ้นภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าฟิล์มบีโอพีพี ซึ่งเป็นวัตถุดิบของการผลิตบรรจุภัณฑ์ ที่ไม่ใช่แค่จะกระทบต่อต้นทุนซองมาม่า แต่ยังกระทบต่อต้นทุนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการเตรียมขึ้นภาษีความเค็มของกระทรวงการคลัง ที่จะส่งผลกระทบต่อมาม่าและสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลายชนิด