BCH - 4Q21F กำไรลดลง (วันที่ 12 มกราคม 2565)

ส่วนจำนวนผู้ป่วยและการตรวจโควิดรายวัน YTD เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 129% และ 137% จาก 4Q21 ตามลำดับ แต่รายได้โควิดอาจไม่เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน เนื่องจากการปรับราคาลงและค่ารักษาลดลงเพราะอาการไม่รุนแรง เราคงคาดการณ์กำไรลดลง 66% ในปี FY22F และคงคำแนะนำ ถือ  

 

คงมุมมองกำไร 4Q21F อ่อนแอลง

เราคาดรายได้โรงพยาบาลจะลดลง 39% qoq เป็น 4.9 พันลบ. ใน 4Q21 จากจำนวนการตรวจโควิดลดลง 63% qoq เป็น 194,333 ราย และจำนวนผู้ป่วยโควิดลดลง 69% qoq เป็น 26,142 ราย แต่การฉีดวัคซีน 346,400 เข็ม (รายได้ 572 ลบ.) และรายได้ผู้ป่วยทั่วไปและประกันสังคมคาดว่าจะเติบโต 5% ช่วยลดผลกระทบ เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเป็น 38% จาก 54% ใน  3Q21 และ 46% ใน 2Q21 จากอัตรากำไรขั้นต้นของการฉีดวัคซีนที่น้อยกว่า (ประมาณ 25%) และการประหยัดจากขนาดลดลง คาดกำไรสุทธิ BCH ที่ 961 ลบ. ใน 4Q21 ลดลง 67% qoq แต่เพิ่มขึ้น 246% yoy ทำให้กำไร FY21F เป็น 5.3 พันลบ. ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเรา +333% yoy BCH จะประกาศผลประกอบการวันที่ 23/24 ก.พ.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จำนวนผู้ป่วยและการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น YTD แต่รายได้จะไม่เพิ่มในอัตราเดียวกัน

YTD จำนวนการตรวจโควิดอยู่ที่ 5,000 ราย/วัน และผู้ป่วยเฉลี่ยที่ 482 ราย/วันเพิ่มขึ้น 137% และ 129% จาก 4Q21 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเรามองว่า รายได้โควิดของ BCH อาจไม่เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกันกับจำนวนผู้ป่วยและการตรวจโควิดที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ Omicron ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง (ผู้ป่วยสีเขียว) การรักษาไม่ซับซ้อน และรัฐบาลสนับสนุนให้กักตัวที่บ้านหรือชุมชน หรือเข้ารักษาในรพ. ภายใต้ประกันสังคมหรือสปสช. แทนการเข้า hospitel  และตั้งแต่ 1 ม.ค. 2022 รัฐบาลปรับลดเพดานค่าห้องรายวันสำหรับผู้ป่วยสีเขียวเป็น 1,000 บาทจาก 1,500 บาท และสนับสนุนการตรวจ ATK (ซึ่งราคาปรับลงจาก 450-550/ครั้ง เป็น 400 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2022) ซึ่งราคาถูกว่า RT-PCR (ซึ่งราคาปรับลงจาก 1,700 บาท/ครั้ง เป็น 1,500 บาท ตั้งแต่ 17 พ.ย. 2021)  นอกจากนี้รัฐบาลจะประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นเร็ว ๆ นี้และจะยกเลิก UCEP สำหรับผู้ป่วยโควิด