คลังเตรียมดึงคนละครึ่ง เฟส4 ใช้ก่อนกำหนด
คลังเล็งดันมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 มาใช้ก่อนกำหนด หวังให้เม็ดเงินไหลเข้าระบบ ประเมินโอมิครอนอาจกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ เล็งปรับระบบลงทะเบียนให้คล่องตัวขึ้น ด้าน สบน.เผยวงเงินกู้เพื่อดูแลผลกระทบจากโควิด-19 มียอดเหลือราว 2.27 แสนล้านบาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอาจจะเลื่อนระยะเวลาการนำมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ออกมาใช้ก่อนกำหนด เนื่องจาก เห็นว่า สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจจะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทย ดังนั้น การนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ก่อน ก็เชื่อว่า น่าจะช่วยกระตุ้นให้การใช้จ่ายในประเทศดีขึ้น และช่วยหนุนเศรษฐกิจในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งนี้ เดิมกระทรวงการคลังคาดว่า จะนำมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 มาใช้ราวเดือนมี.ค.นี้
“เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน เราก็น่าจะนำมาตรการคนละครึ่งออกมาช่วยเหลือ โดยเฉพาะประชาชนระดับล่างทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะที่สำรวจมา จะพบว่า มาตรการดังกล่าวได้ทำให้ประชาชนระดับฐานรากได้ประโยชน์มาก และเมื่อเราดูแลคนระดับฐานรากให้มีการใช้จ่ายได้ดีขึ้นแล้ว ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ก็จะได้รับผลบวกไปด้วย ส่วนวงเงินในการอุดหนุนจากภาครัฐนั้น ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างหารือ”
สำหรับ แนวทางการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 นั้น ทางกระทรวงการคลัง คงจะทำให้มีความสะดวกให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการร่วมโครงการรายใหม่นั้น อาจจะให้ใช้วิธีการแสดงตัวตนแบบง่ายๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวทั้งการสมัคร และการใช้จ่าย เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเข้าไปในระบบรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของวงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 นั้น จะนำมาจากพ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ ยังเหลือวงเงินที่เพียงพอจะใช้จ่ายได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 แต่ยอดใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน โดยเหลือวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ด้าน นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)กล่าวว่า สำหรับวงเงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ดังกล่าวนั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินการใช้จ่ายไว้ที่ 3.43 แสนล้านบาท ขณะนี้ สบน. ได้ดำเนินการกู้เพื่อใช้จ่ายในการดูแลเยียวยา และดูแลเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 แล้วจำนวน 2.73 แสนล้านบาท ฉะนั้น จึงยังเหลือวงเงินที่จะใช้จ่ายได้ประมาณ 2.27 แสนล้านบาท
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์