"หุ้นโบรกเกอร์" กอดคอบวก UOBKH ชนซิลลิ่ง รับทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล - ดีลซื้อกิจการ

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นธุรกิจหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) วันนี้ (14 ม.ค.2565) ปิดภาคเช้าปรับขึ้นร้อนแรง นำโดย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) (UOBKH) บวก 2.05 บาท หรือ 29.71% อยู่ที่ 8.95 บาทต่อหุ้น โดยปรับขึ้นชนเพดานราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง) บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) บวก 0.46 บาท หรือ 28.75% อยู่ที่ 2.06 บาทต่อหุ้น

บมจ.ฟินันซ่า (FSS) บวก 0.54 บาท หรือ 12.44% อยู่ที่ 4.88 บาทต่อหุ้น บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) บวก 0.26 บาท หรือ 6.84% อยู่ที่ 4.06 บาทต่อหุ้น บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) บวก 0.13 บาท หรือ 6.53% อยู่ที่ 2.12 บาทต่อหุ้น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) บวก 0.40 บาท หรือ 5.93% อยู่ที่ 7.15 บาทต่อหุ้น และ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) (MST) บวก 0.60 บาท หรือ 4.44% อยู่ที่ 14.10 บาทต่อหุ้น

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้หุ้นโบรกเกอร์ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก จากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อยเข้ามาต่อเนื่อง หลังจากบริษัทหลักทรัพย์ประกาศขยายธุรกิจเกี่ยวข้องกับการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล สนับสนุนการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต 

ดังนั้น ก่อนหน้านี้จะเห็นว่า ราคาหุ้นกลุ่มโบรกที่ปรับตัวแรงนำตลาด อย่าง CGH, บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) และล่าสุด บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) ได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่หวังเสริมแกร่งรุกสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งผลบวกต่อราคาหุ้นโบรกเกอร์อื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามมองว่า แรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ทำให้หุ้นขนาดกลางและเล็กมีสีสันขึ้นมาในช่วงนี้ และอีกส่วนหนึ่งเป็นภาพการปรับตัวขึ้นทางเทคนิคหลังดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นผ่านแนวต้านสำคัญได้ แนะว่าการลงทุนหุ้นโบรกเกอร์ ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วอาจต้องระวังการเข้าลงทุนหลังจากนี้ เพราะธรรมชาติของหุ้นกลุ่มโบรก เกอร์ราคามักจะปรับขึ้นไวลงไว

“การที่ธุรกิจโบรกเกอร์ แตกไลน์ธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล มองว่าเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้และสร้างโอกาสทำกำไร ในภาวะการหารายได้จากการบริหารสินทรัพย์ลงทุนเช่นหุ้นมีแนวโน้มชะลอตัวลงหากมีการเก็บภาษี ซึ่งการขยายธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลมีโอกาสสร้างการเติบโตได้มากกว่า”

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์