BM คาดผลประกอบการ 4Q64 โต YoY แต่หดตัวเล็กน้อย QoQ
BM รายงานกำไรงวด 3Q64 เท่ากับ 34 ลบ. +7.7%YoY +44.4%QoQ : บริษัทรายงานรายได้งวด 3Q64 เท่ากับ 242 ลบ. -9.9%YoY -15.1%QoQ
โดยรายได้ที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3Q64 ทำให้มีการล็อคดาวน์และปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วงเดือนก.ค. 64 ส่งผลให้บริษัทส่งมอบสินค้าได้ลดลง ขณะที่ %GPM ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 26.7% เทียบกับ 19.4% และ 20.8% ในช่วง 2Q64 และ 3Q63 ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากต้นทุนเหล็กที่ลดลง ส่งผลให้งวด 3Q64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 34 ลบ. +7.7%YoY +44.4%QoQ งวด 9M64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 72 ลบ. +82%YoY และคิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรปี 64 ที่ 104 ลบ.
• คาดการณ์กำไร 4Q64 ที่ 32 ลบ. -5%QoQ +93%YoY : คาดการณ์รายได้ใน 4Q64 ที่ 332 ลบ. +37%QoQ +4%YoY รายได้ที่เติบโต QoQ เกิดจากการปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วง 3Q64 และอัตราค่าระวางเรือที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้มีการเลือนการส่งมอบงานเป็นช่วง 4Q64 ทำให้รายได้ใน Q4 มีแนวโน้มเป็นช่วงสูงสุดของปี เราใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) อยู่ที่ระดับ 23.1% เพิ่มขึ้นจาก 4Q63 ที่ 20.2% แต่ลดลงจาก 26.7% ใน 3Q64 ส่งผลให้คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิในช่วง 4Q64 ราว 32 ลบ. -5%QoQ แต่ +93%YoY
• ประมาณการกำไรปี 64 และ 65 ที่ 104 ลบ. และ 108 ลบ. เติบโต 85%YoY และ เติบโต 4%YoY ตามลำดับ : คาดการณ์รายได้ปี 64 ราว 1,131 ลบ. +14%YoY และปี 65 ราว 1,301 ลบ. +15%YoY จากยอดขายสินค้าของบริษัทที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของลูกค้ากลุ่มรับเหมาก่อสร้างและลูกค้าภาคส่วนธุรกิจ ปลายงวด 3Q64 บริษัทมี Backlog ราว 1,119 ลบ. จะทยอยรับรู้ในช่วง 4Q64 และปี 65 ขณะที่สมมติฐาน %GPM ในปี 64 และปี 65 ที่ระดับ 21.2% ส่วนสมมติฐาน %SG&A คาดว่าจะอยู่ในระดับ 11.9% ในปี 64 และ 12.7% ในปี 65 ส่งผลให้เราคาดกำไรปี 64 ราว 104 ลบ. +85%YoY และปี 65 ที่ 108 ลบ. +4%YoY
• เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 5.50 บาท: ในการประเมินมูลค่าเหมาะสมซึ่งอิง Prospective PER ที่ระดับ 28x (5Yrs P/E Band ที่ระดับ -0.25SD) ขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 32x โดยคาดกำไรต่อหุ้นปี 65 ราว 0.197 บาท คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 65 เท่ากับ 5.50 บาท (Fully Diluted) ซึ่งมีอัพไซต์จากราคาเหมาะสม ราว 11% เราจึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”
ปัจจัยเสี่ยง
i) การผันผวนของราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า
ii) การพึ่งพิงการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างของภาครัฐบาลและเอกชน
iii) การเพิ่มขึ้นของคู่แข่งขัน
iiii) การพึ่งพิงผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบเหล็กรายใหญ่