ครม.ถกวันนี้แก้สินค้าแพง เล็งคลอดแพ็คเกจลดค่าครองชีพ - เร่งคนละครึ่งเฟส4
ครม.ถกแก้สินค้าแพง “คลัง” เล็งเสนอแพ็คเกจลดค่าครองชีพ เลื่อนคนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้นเป็น 21 ก.พ. “พาณิชย์” ของบกลางฯ 1.4 พันล้าน ตรึงราคาสินค้า 3 เดือน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (18 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำปัญหาราคาสินค้าแพงเสนอ ครม.พิจารณากำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยไม่ให้กระทบกลไกตลาดเพิ่มเติมจากหลายมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานดำเนินการก่อนหน้านี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า มาตรการที่แต่ละกระทรวงจะเสนอ ครม.เพื่อลดค่าครองชีพ ประกอบด้วย
1.กระทรวงการคลัง เสนอเลื่อนมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้นจากเดิมที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มี.ค.2565 เลื่อนเป็นวันที่ 21 ก.พ.2565 โดยจะลงทะเบียนวันที่ 14 ก.พ.2565 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนและเติมเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ
2.กระทรวงพาณิชย์ เสนอของบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นวงเงิน 1,400 ล้านบาท เพื่อทำโครงการพาณิชย์ลดราคาลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งจะเพิ่มทางเลือกและสร้างความสมดุลด้านราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในตลาดและการบริโภคภาคครัวเรือนในสถานการณ์ปัจจุบัน 90 วัน หรือ 3 เดือน รวม 3,050 จุดทั่วประเทศ ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น เนื้อไก่ ไข่ไก่ โดยมีจุดขายอยู่ในห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน ห้างท้องถิ่น ตลาดสด รถโมบาย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าดำเนินมาตรการลดผลกระทบค่าครองชีพ ซึ่งมีหน่วยงานที่รายงานความคืบหน้า ดังนี้
1.กระทรวงพลังงาน กำหนดมาตรการลดค่าใช้จ่ายพลังงาน โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ต่อ 2 เดือน ที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ถึงวันที่ 31 มี.ค.2565 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.2565
รวมทั้งบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลดราคา LPG ให้ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึงวันที่ 31 มี.ค.2565 อีกทั้งคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2565 ถึงวันที่ 15 มี.ค.2565
“พาณิชย์”ตรึงหมู-ไก่-ไข่
2.กระทรวงพาณิชย์ประกาศห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณีตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.2565 ต่อเนื่อง 3 เดือน รวมทั้งกรมการค้าภายในหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดราคาจำหน่ายไก่มีชีวิตหน้าฟาร์มและราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนไก่สด 6 เดือน สิ้นสุดเดือน มิ.ย.2565 และตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาท ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้หารือสมาคมผู้เลี้ยงไก่ โรงเชือดและห้างค้าปลีกค้าส่งในเบื้องต้น วานนี้ (17 ม.ค.) เพื่อกำหนดมาตรการลดค่าครองชีพ โดยตรึงราคาไก่สดรวมเครื่องในและไม่รวมเครื่องในราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม น่อง สะโพก ราคา 65-70 บาทต่อกิโลกรัม เนื้ออก ราคา 70-75 บาทต่อกิโลกรัม ณ ห้างค้าปลีกค้างส่ง (บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส) จำหน่ายราคานี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ในขณะที่การจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก ปัจจุบันเปิดจุดจำหน่าย 667 จุด ที่ราคา กก.ละ 150 บาท ถึงสิ้นเดือน ม.ค.2565
3.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์จะแก้ปัญหาราคาหมูแพงที่สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่เป็นต้นทุนหลักเลี้ยงหมูสูงขึ้น ซึ่งสำนักงานพัฒนาอาหารสัตว์เร่งศึกษาสูตรผลิตอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนให้เกษตรกรเจ้าของฟาร์ม
รัฐบาลหวังคุมเงินเฟ้อ1-3%
นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการคู่ขนาน จึงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบการลดการผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบต่อภาพรวมกำลังซื้อของคนในประเทศได้
“ราคาสินค้าแพงดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลพร้อมจะเข้าไปดูแลแก้ปัญหาโดยตรึงราคาสินค้าบางส่วนไว้เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของไทยในปีนี้ ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่กำหนด 1-3%” นายธนกร กล่าว
พาณิชย์ตั้งวอร์รูม“ของแพง”
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ประชุมติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และมีข้อสั่งการให้ตั้งวอรูมโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานทำหน้าที่ติดตามราคาสินค้า แก้ปัญหาและดำเนินคดีกับพวกฉวยโอกาสอย่างเต็มที่
รวมทั้งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในฐานะประธานกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ระดับจังหวัด เป็นประธานวอรูมในระดับจังหวัด
สกัดผู้ผลิตขึ้นราคาสินค้า
นอกจากนั้นในเรื่องของราคาน้ำอัดลมนายจุรินทร์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกผู้ประกอบการมาพบและนายจุรินทร์ได้สั่งการผ่านกรมการค้าภายในห้ามขึ้นราคาเด็ดขาด และยังได้สั่งการให้ทุกฝ่ายจะต้องช่วยดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายในยังไม่มีนโยบายให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน แต่หากต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือหรือลดภาระด้านต้นทุนเพื่อไม่ให้ต้องปรับขึ้นราคาก็ให้แจ้งเข้ามา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นให้ชี้แจงรายละเอียดต้นทุนจะพิจารณาตามความเหมาะสม
นายกฯสั่งแก้ปัญหาหมูต้นทาง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาราคาเนื้อสุกรแพง ว่า ต้องดูต้นตอปัญหาโดยสำรวจต้นทางว่าปริมาณเพียงพอหรือไม่ และเมื่อไม่เพียงพอต้องไปจัดหา ซึ่งการแก้ไขปัญหาหมูต้องงดส่งออกและนำเข้าเนื้อหมู รวมถึงสำรวจหมูแช่แข็งในสต็อกและหมูรอการส่งออกต้องระงับเพื่อให้ปริมาณเพียงพอบริโภคในประเทศ
รวมถึงเร่งผลิตลูกหมูเข้าระบบและส่งเสริมผู้เลี้ยงรายย่อย โดยเมื่อหมูตายต้องเพาะพันธุ์ลูกหมูใหม่ขึ้นมา ส่วนการแพร่ระบาดของโรคเป็นการแพร่ระบาดบางจุดไม่ใช่ทั่วประเทศ และที่หมูตายมีเพียง 20% ต้องไปตามหาสาเหตุของหมูที่ขาดตลาดว่าเกิดอะไรขึ้น
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยถ้าไม่ถูกต้องตามกฎหมายขอให้ไปร้องเรียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
ส่วนที่อ้างว่าการขึ้นราคาสินค้าสาเหตุมาจากการขึ้นราคาของน้ำมัน นายกฯ ระบุว่า "ขึ้นราคาแล้วมีเหตุผลสมควร คงไม่มีอะไร แต่ทำให้ประชาชนนั้นเดือดร้อน ขอให้ไปดูต้นทุน ไม่ใช่น้ำมันขึ้น 1 บาท แต่ขอขึ้นราคาสินค้า 5 บาท ผมบอกว่าไม่มีเหตุผล ขออย่าเห็นแก่ตัวกันในเวลานี้เช่นเดียวกับการที่จะขอขึ้นค่าแรง จะเอาเงินมาจากไหน พูดได้หมด แต่ต้องหาเงินมาให้ได้”