Selective buy (ประจำวันที่ 18 มกราคม 2565)

Selective buy (ประจำวันที่ 18 มกราคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดบวก 4 จุด จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มธีมเปิดเมือง อาทิ สนามบิน สายการบิน และโรงแรม ตอบรับจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศเริ่มปรับตัวลงจากระดับ 8,000 รายเป็น 6,900 ราย

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET ปรับตัวขึ้น 1,683 - 1,690 จุดก่อนสลับอ่อนตัว ตาม sentiment เชิงบวกยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศชะลอตัวลง รวมถึงแรงเก็งกำไรหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัว เช่น GULF จับมือกับ Binance และกลุ่มธนาคารที่กำลังทยอยประกาศงบปี 2564 ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม Fund flow ที่ชะลอตัวจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว  

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง

          กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น  BBL TTB KBANK BLA  

           AOT MINT CENTEL ERW AAV AMATA WHA HMPRO CPN ยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศชะลอตัว

 

หุ้นแนะนำวันนี้

KBANK (144.5166เทรนด์ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นตามเงินเฟ้อ สินเชื่อเติบโตดีสุดของกลุ่ม สถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลายเป็นบวกต่อกลุ่มธุรกิจ SME และเป็นบวกต่อ KBANK เพราะมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ SME มากที่สุดของกลุ่ม

ZIGA (ปิด 4.76 ซื้อ/เป้า 6 บาท) คาดกำไรสุทธปี 21 พุ่งทำ All time high ที่ระดับ 198 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 68%yoy และคาดปีนี้โตต่อเนื่องเป็น 230 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16%yoy จาก 1) Economies of scale จากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 2) การเพิ่ม Distribution Channel และมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจโครงสร้างโรงเรือนเพาะกัญชา กัญชง

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

      INETREIT (ปิด 11.4 ซื้อ/เป้า 13.5 บาท), ZIGA (ปิด 4.76 ซื้อ/เป้า 6 บาท)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ลุ้น ครม. ออกมาตรการลดค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อ: เป็นที่คาดหมายกันว่าการประชุม ครม. ในวันนี้จะมีการหารือและอนุมัติมาตรการทาง ศก. ต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการลดค่าครองชีพเพื่อลดภาระให้กับประชาชนจากปัญหาข้าวของแพง นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม อาทิ มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่อาจจะเร่งออกให้เร็วขึ้นจากเดือน เม.ย. เป็นเดือน ก.พ เป็นบวกกับหุ้นกลุ่มค้าปลีก

(+/-) จีนประกาศลดดอกเบี้ยหลัง GDP เติบโตในอัตราที่ชะลอตัว: จีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.10% สู่ระดับ 2.85% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 และอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 2 แสนล้านหยวน (3.15 หมื่นล้านดอลลาร์) หลังจากที่ GDP ไตรมาส 4/21 ขยายตัวเพียง 4% แม้จะดีกว่าที่ Consensus คาดที่ 3.6%-3.7% แต่เติบโตในอัตราที่ลดลงหากเทียบกับไตรมาส 3/21 ที่ขยายตัว 4.9%

(+/-) BoJ Meeting วันนี้คาดคงนโยบายผ่อนคลายการเงินตามเดิม: เบื้องต้นเราคาดว่า BoJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) คือการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ 0% เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมใหอยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือน และต้องติดตามคาดการณ์ ศก. (GDP) รวมถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ