1,650 แนวสำคัญ (ประจำวันที่ 21 มกราคม 2565)

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET อ่อนตัวแนวรับ 1,650 / 1,645 จุด ตามความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ทิศทางการลงทุนเป็นลบ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะได้แรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 รวมถึงแรงเก็งกำไรหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้ 

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          AOT MINT CENTEL ERW AAV ข่าวครม.พิจารณาเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ในสัปดาห์หน้า และการเปิดลงทะเบียน Test&Go ได้อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.พ.

          PTTEP TOP PTTGC IVL SPRC ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง

          กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น  BBL TTB KBANK KTB BLA  

 

หุ้นแนะนำวันนี้

AMATA (ปิด 21 ซื้อ/เป้า 24.50) ได้ Sentiment บวก ภาครัฐเปิดรับชาวต่างชาติแบบ Test and Go ดึงนักธุรกิจและนักลงทุนเข้าไทยช่วยเพิ่มยอดขายที่ดิน ได้ประโยชน์จากธีมการย้ายฐานการผลิตหลังจีนเผชิญปัญหาวิกฤติพลังงานและยังมีความเสี่ยงจาก Trade war

HMPRO (ปิด 14.1 ซื้อ/เป้า 17 บาท) เปิดเมืองเปิดประเทศหนุนยอด SSSG พลิกเป็นบวก 12% ใน 4Q21 เทียบกับ -11% ใน 3Q21 หนุนกำไรสุทธิ 4Q21 พุ่งเท่าตัว เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 1,576 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 81%qoq และ 2%yoy

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

         BBL, CPF, HTC, PLANB, TTB

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ร่วงอีก 313 จุด หลัง นายโจ ไบเดน สนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 313.26 จุด (-0.89%) ปิดที่ 34,715 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นอีกครั้งหลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนให้เฟดใช้นโยบายคุมเข้มการเงิน เนื่องจาก ศก. สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ

(+) ศบค. มีให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบ Test and Go ได้อีกครั้ง: วานนี้ ศบค. มีมติให้ปรับลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เหลือ 44 จังหวัด จาก 69 จังหวัด และให้เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว (Test And Go) ได้อีกครั้งเริ่ม 1 ก.พ. เป็นต้นไป โดยไม่จำกัดประเทศ แต่มีเงื่อนไขจะต้องตรวจ  RT-PCR 2 ครั้งใน 5 วัน (วันแรก และวันที่ 5) เป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มธีมเปิดเมืองจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น

(+/-) กลุ่มธนาคาร TTB กำไรดีเกินคาดแต่ BBL ต่ำกว่าที่คาดไว้: TTB มีกำไรสุทธิ 2,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%qoq และ 127%yoy สูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 27% และ 17% ตามลำดับจากการตั้งสำรองที่ลดลง ส่วน BBL มีกำไรสุทธิ 6,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163%yoy แต่ลดลง 9%qoq และต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 13% และ 8% ตามลำดับจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ส่วนวันนี้ติดตาม KBANK SCB และ KTB ประกาศงบ