กูรูมั่นใจทองคำปี 65 ทะลุ 3 หมื่นบาท ปรับฐานเป็นโอกาสสะสม
“คลาสสิก โกลด์” ส่งสัญญาณราคาทองปี 2565 มีโอกาสทะลุ 3 หมื่นบาท หลัง 3 ปัจจัยหนุน “บาทอ่อน-เงินเฟ้อ-การเมืองต่างประเทศ” ชี้ไตรมาสแรกปรับฐานระยะสั้น จากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ลดคิวอี แต่มองเป็นโอกาสสะสม
นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล กรรมการและผู้บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในปี 2565 โดยเชื่อว่าราคาทองคำแท่งในประเทศมีโอกาสปรับขึ้นทะลุ 30,000 บาทต่อบาททองคำ จากปัจจัยหนุนค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงในปีนี้ หลังค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในต่างประเทศ
แม้ระยะสั้นราคาทองคำจะปรับลงแรง โดยวานนี้ (26 ม.ค.) ราคาทองคำปิดตลาดปรับลง 250 บาท ส่งผลให้ราคาทองแท่งเหลือขายออกที่ 28,600 บาทต่อบาททองคำ ระหว่างวันปรับลง 300 บาท ราคาทองแท่งขายออกที่ 28,550 บาทต่อบาททองคำ แต่มองเป็นการปรับลงระยะสั้นเท่านั้น จากปัจจัยกดดันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้มากกว่า 4 ครั้ง และเตรียมปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE)
ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 1 ปี 2565 ราคาทองคำมีความเสี่ยงจะถูกกดดันจากความกังวลในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด โดยประเมินแนวรับของราคาทองคำในประเทศที่ 27,000 บาทต่อบาททองคำ และทองคำต่างประเทศที่ 1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ทองคำในประเทศอยู่ที่ 30,300 บาทต่อบาททองคำ และทองคำต่างประเทศอยู่ที่ 1,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์
“ราคาทองคำในช่วงนี้มีความผันผวนอยู่พอสมควร แต่เรามองว่าอย่างไรก็ดี ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความปลอดภัย เพราะอัตราผลตอบแทนในอดีตสามารถสู้เงินเฟ้อได้ และราคามักปรับขึ้นสวนทางในช่วงที่สินทรัพย์อื่นๆ ปรับตัวลงเมื่อมีวิกฤต อีกทั้งยังสามารถจับต้องได้ แตกต่างจากสินทรัพย์ลงทุนอื่น เช่น หุ้น และสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) จึงแนะนำทยอยสะสม ซึ่งการลงทุนผ่านวิธีการออมทองก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง”
นายธนัฐ ศิริวรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล แอสเซ็ท แมเนจเมนต์ จำกัด หรือ DAM กล่าวว่า ภายหลังบริษัทเปิดตัวแอพพลิเคชั่นออมทอง “SAVVY” ในเดือน พ.ย.2564 พบว่าลูกค้าให้ความสนใจอย่างมาก โดยมียอดดาวน์โหลดและยอดขอเปิดบัญชีมากกว่า 1,500 บัญชีแล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัททยอยยืนยันตัวตนลูกค้าไปแล้วกว่า 80-90% ส่วนจำนวนผู้ใช้ประจำ (Active User) อยู่ที่ประมาณ 40%
ขณะที่ปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายจำนวนบัญชีลูกค้าเติบโตแตะ 2-3 หมื่นบัญชี โดยมีแผนทำการตลาดเพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาระบบเพื่อให้บริการออมทองกับพนักงานของ บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการที่เป็นฟินเทคอีกหลายรายเพื่อขยายธุรกิจ