เรื่องที่ไม่ทำ อาจสำคัญกว่าเรื่องที่ทำ!

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่บริษัทของท่านกำลังเผชิญอยู่ เรื่องใดที่ควรคิด ควรตัดสินใจทำ เพื่อส่งผลดีกับบริษัทและธุรกิจ
Part.1.เรื่องเกือบจะแปลก...แต่จริง!?
มีหลายเรื่อง ที่เจ้าของกิจการ หรือ ผู้นำขององค์กร ตัดสินใจทำ แล้วส่งผลดีกับองค์กร เช่น รู้ว่าถ้าจะลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี จะไม่รีบร้อนลงทุนตามกระแส เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ดีขึ้นแต่ราคาจะถูกลงเรื่อยๆ การลงทุนจะเน้นไปที่ Outsourse หรือหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก่อน เพื่อดูความคุ้มค่าว่าจำเป็นต้องลงทุนเองในอนาคตหรือไม่ เป็นต้น
และก็มีหลายเรื่องเช่นกัน ที่ เจ้าของกิจการหรือผู้นำองค์กร ตัดสินใจทำ แล้วส่งผลเสียกับองค์กร
เช่น การประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะรายได้ต่ำกว่าเป้า แต่ค่าใช้จ่ายยังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น และดูแนวโน้มยังมองไม่เห็นแนวทางที่จะเพิ่มรายได้ที่ชัดเจน
บ่อยครั้งที่ เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารมืออาชีพ มักจะใช้วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อรายได้ไม่เพิ่ม หรือลดลง ก็ตัดค่าใช้จ่ายซะให้สาแก่ใจ โดยการ ตัดงบ แบบสะเปะสะปะ ที่ดูเหมือนจะประหยัดในระยะสั้น แต่ส่งผลเสียอย่างมากในระยะกลาง และ ระยะยาว
เช่นงบที่จำเป็นต้องพัฒนาทีมงาน ถูกตัดหมด หรือ ลดจำนวนพนักงานแบบฮวบฮาบจนขวัญกระเจิงกันทั้งองค์กร หรือแม้กระทั่งงบเล็กๆน้อยๆ ทยอยตัดซะเกลี้ยง ทั้งงบกาแฟ ไปจนถึงงบหยุมหยิม ต่างๆ ที่ตัดทิ้งแล้วไม่ได้ทำให้บริษัทรวยขึ้น แต่ทำให้พนักงานมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่งข้อความหากันพร้อมกับขวัญกำลังใจที่ถดถอยลงทุกวัน
Part.2.ในบางครั้ง....เรื่องที่ไม่ทำ อาจสำคัญกว่าเรื่องที่ทำ!
โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบัน มีเรื่องที่เจ้าของกิจการหรือผู้นำองค์กร ต้องคิดตลอดเวลา เรื่องที่คิดก็มีหลายเรื่องที่อยากจะทำ เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจกำลังซื้อถดถอย ลูกค้าใหม่หายาก ลูกค้าเก่าหดหายเป็นต้น
เรื่องที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง ถ้าคิดจะทำ ในสถานการณ์ปัจจุบันมีหลายเรื่อง ทั้งที่เจ้าของกิจการอยากจะทำ เพราะเรื่องเหล่านี้ การที่ไม่ทำ อาจสำคัญและส่งผลดีกว่าการทำ!
ตัวอย่างเช่น....
Part.3.เรื่องที่ เจ้าของกิจการ ไม่ทำ แต่ส่งผลดี
3 ไม่ ที่ไม่ทำในช่วงนี้แล้วส่งผลดี. เรื่องแรก....
ไม่รีบตัดสินใจ “ตัดค่าใช้จ่ายที่ส่งผลกระทบกับสินค้า-บริการ”.
เช่น การลดคุณภาพของสินค้า หรือ การลดคุณภาพของการให้บริการ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย(ได้ไม่มาก) แต่ทำลายธุรกิจได้อย่างมาก ในระยะเวลาอันใกล้
เพราะลูกค้าประจำที่เคยซื้อ เคยกิน เคยใช้สินค้า หรือเคยได้รับบริการที่ดี โดยรวมได้รับประสบการณ์ที่ดีพอใช้ได้มาโดยตลอด จู่ๆคุณภาพสินค้าลดลงจนรู้สึกได้ หรือกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีที่ได้รับจากตัวสินค้า หรือการให้บริการที่แย่ลง.
ยังไม่รวมถึง ลูกค้าใหม่(ผู้เคราะห์ร้าย)ที่ช่วงนี้บังเอิญดวงตก หลงเข้ามาซื้อ มาใช้บริการ แล้วเจอคุณภาพของสินค้าหรือบริการที่แย่ๆ นอกจากจะไม่ซื้อซ้ำแล้ว ยังบอกต่อผ่านสื่อSocial แบบไม่โฉ่งฉ่างเพื่อป้องกันการถูกฟ้องกลับ แต่ดูออกว่าเป็น Brand อะไร อย่างที่หลายๆ Brand เคยโดนกันมาแล้ว
เพราะฉะนั้น การตัดสินใจลดแบบนี้ เป็นการตัดสินใจ ลดอนาคตของสินค้าและบริษัทให้สั้นลงเร็วยิ่งขึ้น
เรื่องถัดมา..
ไม่รีบตัดสินใจ “ตัดค่าใช้จ่ายที่ส่งผลกระทบกับขวัญกำลังใจของทีมงาน.”
แต่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการพัฒนา ยกระดับทีมงานที่มีคุณภาพ พร้อมๆ กับคัดสรรทีมงานที่นอกจากไร้คุณภาพและสร้างปัญหา
อย่างที่ได้เขียนไปแล้ว ค่าใช้จ่ายหยุมหยิมอย่าไปเสียเวลาตัด สิ่งที่ควรตัดในช่วงนี้คือ คนที่ไร้คุณภาพที่สร้างปัญหา ตรงนี้จะประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาที่จะไปตามแก้ปัญหาที่คนเหล่านี้สร้างไว้ (ซึ่งมีแทบทุกแผนกซะด้วย!)
และเอาเวลามาพัฒนาคนทีเก่งให้เก่งยิ่งขึ้น คนที่ไม่เก่งแต่พัฒนาได้ก็เร่งพัฒนาในช่วงนี้
เรื่องสุดท้าย
ไม่ปล่อยปละละเลยให้บรรดา ผู้จัดการ หัวหน้างาน พนักงานระดับปฏิบัติการ เคว้งคว้าง ขาดการสื่อสารกับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูง
เพราะในสถานการณ์ปัจจุบัน พนักงานทั้งระดับสูง ระดับกลาง และระดับปฏิบัติการ ต่างก็เสพและเห็นข่าวร้ายๆทางเศรษฐกิจทางธุรกิจทุกวัน เช่น โรงงานทยอยปิด ธุรกิจหลายแห่งไปไม่รอด รวมไปถึงธุรกิจเดียวกันกับที่บริษัทกำลังทำ ก็ถูกจีนกำลังเข้ามาแย่งตลาดมากลืนกินเป็นต้น
ทำให้พนักงานแทบจะทุกระดับ ทำงานไปแบบวันๆรู้สึกไม่เห็นอนาคต ไม่มั่นใจในบริษัท
เพราะฉะนั้น ถ้าบริษัทใดเจอสถานการณ์แบบนี้ เจ้าของกิจการ ควรจะสื่อสารกับพนักงานทุกระดับบ่อยๆ
สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ สื่อสารให้ทุกคนเชื่อมั่นในทิศทางของบริษัทที่กำลังมุ่งมั่นแก้ปัญหา หรือกำลังมุ่งมั่นไปสู่อนาคตดีๆที่มีโอกาสใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังสร้างพัฒนา เป็นต้น
Part.4. ลองพิจารณาดู....
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่บริษัทของท่านกำลังเผชิญอยู่.
เรื่องใดที่ควรคิด ควรตัดสินใจทำ เพื่อส่งผลดีกับบริษัทและธุรกิจ
และ เรื่องที่ไม่ควรคิด ไม่ควรทำ เพราะอาจสำคัญกว่าเรื่องที่ทำ!