อยากถูกรางวัล "สลากออมสิน" ต้องทำอย่างไร? มือใหม่ต้องรู้!
อยากซื้อ "หวยออมสิน" หรือ "สลากออมสิน" ลุ้นโชค ต้องเริ่มต้นอย่างไร? ชวนศึกษาข้อมูลและวิธีการซื้อสลากออมสิน ที่ได้ลุ้นรางวัลใหญ่ไม่ต่างจากซื้อหวย แถมยังไม่เสียเงินต้น พร้อมเคล็ดลับการซื้อสลากออมทรัพย์ให้มีสิทธิถูกรางวัลทุกงวด!
หลังจากผลรางวัล "หวยออมสิน" หรือ "สลากออมสิน" งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถูกประกาศไปเมื่อวานนี้ โดยมีทั้งรุ่นสลากออมสินพิเศษ 5 ปี, สลากออมสินพิเศษ 2 ปี, สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี ทำให้ผู้ถูกรางวัลได้เฮกันยกใหญ่
ใครที่อยากถูกรางวัล "สลากออมสิน" แบบนี้บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ สรุปข้อควรรู้ และเทคนิคการซื้อสลากออมทรัพย์ จากธนาคารออมสิน ให้มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนมาให้รู้กัน ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ตรวจผล "สลากออมสิน" พิเศษ 5 ปี งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
- ตรวจผล "สลากออมสิน" พิเศษ 2 ปี-พิเศษดิจิทัล 2 ปี งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
- 'สลากออมสิน' ลุ้นหวยได้ เก็บเงินด้วย พร้อมทริคซื้อยังไงให้ 'ถูกรางวัล' ทุกเดือน?
1. "หวยออมสิน" หรือ "สลากออมสิน" คืออะไร ?
หวยออมสิน หรือ "สลากออมสิน" เป็นผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการ "ออมเงิน" จาก "ธนาคารออมสิน" ในระยะยาว มีทั้งแบบอายุฝาก 3 ปี, 5 ปี (รุ่นเก่า ปัจจุบันไม่มีขายแล้ว) และแบบอายุฝาก 1 ปีดิจิทัล, 2 ปีดิจิทัล, 2 ปีพิเศษ (มีขายในปัจจุบัน) โดยผู้ฝากจะได้รับ "ดอกเบี้ย" ตามอัตราที่กำหนด พร้อมมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกเดือน คล้าย "หวย"
เงินที่ใช้ซื้อสลากออมสินจะไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ตามระยะเวลากำหนด จากนั้นหากฝากเงินครบกำหนด จะได้เงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออมเงิน แถมได้ลุ้นรางวัลสนุกๆ ได้ตลอดทั้งปี ทำให้การออมเงินไม่น่าเบื่อ
2. "สลากออมสิน" มีกี่ประเภท แต่ละประเภทได้ลุ้นรางวัลเท่าไร?
มีข้อมูลจากธนาคารออมสินระบุว่า ปัจจุบันออมสินมีการเปิดขาย "สลากออมสิน" อยู่ 3 ประเภท คือ สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี, สลากออมสินพิเศษ 2 ปี, สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี โดยแต่ละประเภท มีรายละเอียดดังนี้
- สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี : สลากดิจิทัล อายุ 1 ปี งวดที่ 11 หน่วยละ 20 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 3 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษี ฝากครบอายุจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีคู่โอนโดยอัตโนมัติ ดูเงื่อนไขเพิ่มเติม คลิกที่นี่
- สลากออมสินพิเศษ 2 ปี : สลากออมสินพิเศษ อายุ 2 ปี งวดที่ 217 หน่วยละ 100 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลานานถึง 24 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 5 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษี ฝากครบอายุจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีคู่โอนโดยอัตโนมัติ ดูเงื่อนไขเพิ่มเติม คลิกที่นี่
- สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี : สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี งวดที่ 215 หน่วยละ 100 บาท มีสิทธิถูกรางวัลทุกเดือนเป็นเวลานานถึง 24 เดือน รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัล 5 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เงินรางวัลและดอกเบี้ยของบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษี ฝากครบอายุจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีคู่โอนโดยอัตโนมัติ ดูเงื่อนไขเพิ่มเติม คลิกที่นี่
3. วิธีซื้อ "สลากออมสิน" รุ่นที่มีขายในปัจจุบัน
บุคคลธรรมดาสามารถเปิดบัญชี และซื้อสลากออมสินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป
โดยจะต้องมีบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกของธนาคารออมสินก่อน เมื่อสลากครบอายุแล้ว ธนาคารจะโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝาก
โดยสามารถซื้อผ่านธนาคารออมสินได้ทุกสาขา หรือจะซื้อสลากดิจิทัลผ่านแอพฯ MyMo ของออมสินก็ได้ ใครที่ต้องการซื้อสลากดิจิทัลทางออนไลน์ มีขั้นตอนดังนี้
- สมัครและลงทะเบียนสลาก เพื่อเปิดใช้งานสลากดิจิทัล ที่สาขาของธนาคารออมสิน (สาขาใดก็ได้)
- เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น MyMo และกดเข้าไปในแอพฯ
- เลือกไอคอน "สลากดิจิทัล" แล้วกดเครื่องหมาย + เพื่อทำรายการซื้อสลากดิจิทัล
- ระบุจำนวนซื้อสลากดิจิทัล แล้วกดเลือกบัญชีที่ต้องการ "โอนเงิน"
- กดยืนยันข้อมูลการทำรายการ ถือว่าทำรายการเสร็จสมบูรณ์
4. วิธีซื้อ "สลากออมสิน" ให้ถูกรางวัลทุกงวด ทำแบบนี้!
สำหรับสลากออมสินที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นดังกล่าวข้างต้น แต่ละรุ่นจะมีสิทธิถูกรางวัลเลขท้ายทุกเดือน เมื่อซื้อสลากถึงขั้นต่ำตามจำนวนหน่วยที่ธนาคารกำหนด ดังนี้
- สลากดิจิทัล 2 ปี : ควรฝากขั้นต่ำ 1,000 หน่วย จำนวนเงิน 100,000 บาท จะเพิ่มโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกเดือน
- สลากดิจิทัล 1 ปี : ควรฝากขั้นต่ำ 10,000 หน่วย จำนวนเงิน 200,000 บาท จะเพิ่มโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัวทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคนที่ซื้อสลากน้อยกว่าขั้นต่ำ จะไม่มีโอกาสถูกรางวัลทุกเดือน เพียงแต่มีโอกาสน้อยกว่า อีกทั้งการถูกรางวัลก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ซื้อว่ามากหรือน้อย เพราะผู้ที่ซื้อจำนวนหน่วยน้อยก็มีโอกาสถูกรางวัลที่ใหญ่กว่า หรือถี่กว่าได้เช่นกันเพียงต้องอาศัย "ดวง" เป็นตัวช่วย
อย่าลืมว่า.. การถูกรางวัลต่างๆ เหล่านี้ คือผลพลอยได้จากการออมเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่จะไปถึงเป้าหมายในการออมเงินได้ คือคนที่บริหารจัดการเงินได้เหมาะสม และมีวินัย