"เอกชน" ชงขยาย "ช้อปดีมีคืน" เพิ่มวงเงินเป็น 1 แสนบาทต่อคน ใช้จ่ายถึงสิ้นปี
“สุพันธุ์” เสนอยืดเวลาช้อปดีมีคืนเพิ่มวงเงินเป็น 1 แสนบาทต่อคน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่วนคนละครึ่งมองว่าควรให้ 1,500 บาทเท่าเดิม เหตุกำลังซื้อยังไม่ฟื้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าการจูงใจให้ผู้มีรายได้สูงมีการใช้จ่ายเพิ่มเติมในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันถือว่ามีความจำเป็น
โดยในส่วนของมาตรการช้อปดีมีคืนที่รัฐบาลจ่ายคืนภาษีให้กับผู้ใช้จ่ายนั้นควรมีการขยายทั้งระยะเวลาโครงการ และขยายระยะเวลาในการใช้จ่ายโครงการนี้ออกไปด้วย
ในส่วนของการขยายวงเงินรัฐบาลควรมีการเพิ่มวงเงินในการลดหย่อนภาษีให้จากเดิมที่มีการลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน เป็นไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
และในส่วนของระยะเวลาการใช้จ่ายในโครงการควรมีการขยายระยะเวลา จากเดิมที่จะหมดระยะเวลาในโครงการในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ควรมีการขยายระยะเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อให้ประชาชนมีระยะเวลาในการใช้จ่าย
สำหรับ โครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 มองว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบในปัจจุบันวงเงินที่ได้รับแต่ละคนไม่ควรน้อยกว่าวงเงินที่เคยได้คือ 1,500 บาทต่อคน
“เรื่องวงเงินที่ได้รับในโครงการคนละครึ่งถามว่ามากไปหรือน้อยไป บอกยากขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจด้วย ถ้ารัฐทำให้เศรษฐกิจดี คนมีรายได้มากขึ้น สมมติว่าเพิ่มขึ้นได้เดือนละ 2,000 บาท เขาก็ไม่ต้องการคนละครึ่งแล้วเพราะว่ามีเงินในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น” นายสุพันธุ์ กล่าว
เงื่อนไขการรับสิทธิโครงการช้อปดีมีคืน 2565
ซื้อสินค้า หรือบริการที่เกิดขึ้นระหว่าง 1 ม.ค. - 15 ก.พ. 2565
เป็นสินค้าหรือบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือเป็นสินค้าประเภทหนังสือ (รวม e-book) และสินค้า OTOP
การรับสิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืน ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านเวบไซต์ แต่มีใบกำกับภาษีจากการซื้อสินค้า-บริการเท่านั้น
ป.ล.1 กรณีบุคคลต่างชาติ แต่ถ้าต้องยื่นภาษีในไทยก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนได้
ป.ล.2 ผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2565 และ คนละครึ่งเฟส 4 ได้ เนื่องจากช่วงระยะเวลาไม่ทับซ้อนกัน ประชาชนสามารถใช้ได้ทั้ง 2 สิทธิในปี 2565 นี้ได้
สินค้าและบริการที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ปกติสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีใบกำกับภาษีออกมาพร้อมกันด้วย ซึ่งการใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนจะต้องใช้ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ปรากฏชื่อ และข้อมูลผู้ซื้อด้วย (ไม่สามารถใช้ใบกำกับภาษีอย่างย่อได้)
หนังสือรูปเล่มและหนังสือในรูปแบบอีบุ๊ค
หนังสือ และ e-book ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ โดยผู้ขายต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่านั้น (เจ้าของร้านหนังสือเป็นบุคคลธรรมดาใช้ลดหย่อนไม่ได้)
สินค้า OTOP
สินค้า OTOP ที่ลดหย่อนภาษีได้จะต้องเป็นสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยจะเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ก็ได้ แต่ในหลักฐานต้องระบุว่า สินค้าทุกรายการเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
สินค้าที่ไม่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษี ในโครงการช้อปดีมีคืน มีอะไรบ้าง?
สุรา, เบียร์ และไวน์
ยาสูบ
ค่าน้ำมัน ก๊าซเชื้อเพลิง
ค่ารถยนต์, มอเตอร์ไซค์ และค่าเรือ
ค่านิตยสารที่ซื้อผ่านออนไลน์
ค่ามัคคุเทศก์
ค่าที่พักโรงแรม (เนื่องจากอยู่ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันอยู่แล้ว)
ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์
ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ส่วน เงื่อนไขช้อปดีมีคืน กำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าซื้อหนังสือ และค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท
โครงการช้อปดีมีคืน 2565 มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุดเท่าไหร่ ?
เงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี (ไม่ได้สิทธิคืนภาษี)
เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 5% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 10% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 3,000 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 15% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 20% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 25% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 30% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท)
เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษีเงินได้ 35% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท)
จากมาตรการช้อปดีมีคืน จะเหมาะกับผู้มีเงินได้สุทธิสูง และต้องเสียภาษีในอัตราสูง เพราะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ทำให้ประหยัดภาษีได้มากขึ้นด้วย
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์