สายมู "ถ้ำนาคา" ดันเที่ยวอีสานเหนือคึกคัก ททท.บูม "นคราธานี" ดันเข้าพักพุ่ง
นักท่องเที่ยว “สายมูเตลู” ฮิต! เที่ยวไหว้ขอพร “ถ้ำนาคา” จ.บึงกาฬ ต่อเนื่อง ปลุกบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวคึกคัก โดยเฉพาะอัตราเข้าพัก 3 จังหวัดอีสานเหนือ "อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ” พุ่งทะลุ 75% ในเดือน ก.พ. โดยโรงแรมที่พักใน อ.บึงโขงหลง ยอดจองเต็มยาวไปถึงกลางเดือน ก.พ.
ธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า กระแสการท่องเที่ยว "ถ้ำนาคา" จ.บึงกาฬ เริ่มมาแรงตั้งแต่ก่อนเทศกาลปีใหม่ หลังมีบรรดาคนดัง ดารา เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ เดินทางไปเยือนเพื่อกราบไหว้ขอพรจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสปากต่อปาก และเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวสายมูเตลูอื่นๆ ในจังหวัดข้างเคียง
ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดกลุ่ม “นคราธานี” ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ ภายใต้ความรับผิดชอบทำการตลาดของสำนักงานอุดรธานี ผ่านการดึงอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับแรงศรัทธาเรื่องพญานาค ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมที่พักใน 3 จังหวัดดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2564 ซึ่งมีมากกว่า 50% เพิ่มเป็น 71-73% ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จากโรงแรมที่เปิดให้บริการ 70% ของโรงแรมทั้งหมด
“กระแสการท่องเที่ยวถ้ำนาคามาแรงมากๆ ทำให้โรงแรมที่พักในพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีอัตราเข้าพักเต็ม 100% ตั้งแต่เดือน ม.ค.ยาวไปถึงกลางเดือน ก.พ. ส่งต่ออานิสงส์ไปยังโรงแรมที่พักในพื้นที่อื่นๆ ของ จ.บึงกาฬ และ จ.หนองคาย"
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา มีการกำหนดขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวไว้ที่ 500 คนต่อวัน ตามมาตรการนิวนอร์มอล นักท่องเที่ยวจะต้องจองคิวผ่านแอพพลิเคชัน “QueQ”
คาดว่าในเดือน ก.พ.นี้ กระแสการท่องเที่ยวถ้ำนาคาและสายมูจะยังแรงต่อเนื่อง ทำให้มีอัตราการเข้าพักของทั้ง 3 จังหวัดเกิน 75% เนื่องจากคนไทยอัดอั้นเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวหลังเทศกาลปีใหม่ซึ่งเจอการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ประกอบกับตลาดการจัดประชุมสัมมนาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
“ถือเป็นผลการดำเนินงานที่น่าชื่นใจ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทั้ง 3 จังหวัดจะมีอัตราการเข้าพักได้ขนาดนี้ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้คนไทยเครียด จึงเลือกหาที่พึ่งทางใจ ด้วยการเดินทางเยือนแหล่งท่องเที่ยวด้านศรัทธาและความเชื่อ"
โดย ททท.ขอแนะนำนักท่องเที่ยวว่าควรจองคิวขึ้นถ้ำนาคาและจองโรงแรมที่พักให้สำเร็จก่อน ถึงค่อยจองตั๋วเครื่องบินหรือตัวเลือกการเดินทางอื่นๆ
ธนภร กล่าวต่อว่า ททท.สำนักงานอุดรธานี จะเดินหน้าโปรโมทการท่องเที่ยวสายมูต่อเนื่องในปี 2565 ภายใต้แนวคิด “หลงรักนคราธานี” เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ ว่าเป็นพื้นที่แห่งความรักและความศรัทธาในทุกมิติ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น สายการบิน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวไทยเดินทางข้ามภาคมาเที่ยวอีสานมากขึ้น
นอกเหนือจากถ้ำนาคาที่เป็นไฮไลต์แล้ว ยังมีเส้นทางสายมูอื่นๆ เช่น เส้นทางแก้ชง ไหว้ศาลเจ้าปู่ย่า 2 จุดใน จ.อุดรธานี ที่ อ.เมืองฯ และ อ.คำชะโนด (ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา) ซึ่งมีการจัดกิจกรรมแก้ชงถึงวันที่ 16 ก.พ.นี้ทั้ง 2 จุด รวมถึงประสบการณ์ขับรถเที่ยวเส้นทางพญานาคใน 3 จังหวัดนี้ ทางบริษัทนำเที่ยวมีการเสนอขายแพ็คเกจท่องเที่ยวรวมที่พัก ราคาเฉลี่ย 6,900 บาทสำหรับ 3 วัน 2 คืน กับราคาเฉลี่ย 7,900 บาทสำหรับ 4 วัน 3 คืน (ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
และยังสามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน เช่น จ.นครพนม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวตามรอยพญานาคเช่นกัน คือ “ถ้ำนาคี” ตั้งอยู่อีกฝั่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปถ้ำนาคีและต่อที่ถ้ำนาคาได้แบบวันเดย์ทริป ขึ้นกับสภาพร่างกาย หรือเดินทางไปไหว้พระธาตุพนม และพระธาตุประจำวันเกิดต่างๆ ใน จ.นครพนม ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับความนิยมจากคนไทย
ขณะเดียวกัน ททท.สำนักงานอุดรธานีเดินหน้าโปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวอินเลิฟด้วย เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงาม เช่น ทุ่งดอกบัวแดง จ.อุดรธานี ซึ่งจะบานถึงสิ้นเดือน ก.พ.นี้