“สุพัฒนพงษ์” ไม่ท้อม็อบชุมนุมไล่พ้นตำแหน่ง ชี้ตรึงราคาน้ำมันเต็มที่แล้ว 

“สุพัฒนพงษ์” ไม่ท้อม็อบชุมนุมไล่พ้นตำแหน่ง ชี้ตรึงราคาน้ำมันเต็มที่แล้ว 

“สุพัฒนพงษ์” ไม่ท้อม็อบชุมนุมไล่พ้นตำแหน่ง กังขาที่มาน้ำมัน 25 บาท/ลิตรที่เรียกร้องมาอย่างไร ระบุพยายามตรึงราคามากที่สุดแล้ว หากไม่มีการตรึงราคาดีเซลจะทะลุถึง 35 บาทต่อลิตร

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณี สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศชุมนุมหน้ากระทรวงพลังงานเรียกร้องให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลและขับไล่ รมว.พลังงาน ออกจากตำแหน่งว่า ทุกครั้งที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆเราก็รับข้อเสนอและสามารถให้ข้อมูลได้มากที่สุด ตอนนี้เรากำลังดูมาตรการเดิมที่มีไปถึงวันที่ 31 มี.ค. และหากได้ข้อเรียกร้องต่างๆมาจะไปดูว่าสามารถนำไปปรับปรุงอย่างไรและทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน 

เมื่อว่าสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซล 25 บาทได้หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาเราตรึงไว้ที่ 30 บาท ส่วน 25 บาทคงต้องมาดูกันว่าตัวเลขนี้มาได้อย่างไรและมันจะได้ประโยชน์อย่างไรแล้วใครได้ประโยชน์บ้าง

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น แต่ไม่ลดให้รถบันทุกเป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน และมาตรการที่ว่าเป็นมาตรการชั่วคราว สิ่งที่สหพันธ์รถบันทุกขอไม่ใช่มาตรการเฉพาะ วันนี้รัฐช่วยลิตรละ 5 บาทอยู่แล้วเท่ากับภาษีสรรพสารมิตร

ถ้าวันนี้ไม่มีการตรึงราคาไว้เลยวันนี้ราคาดีเซลทะลุถึง 35 บาท เราจะพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไปก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้นมาเร็วมากเพียงเดือนเดียวขึ้นมา 5 บาทกว่าเกือบ 6 บาทต่อ้ลิตร ถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนซึ่งรัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่แล้วภายใต้กรอบและจำนวนเงินที่มีอยู่

เขากล่าวด้วยว่าถือเป็นเรื่องธรรมดาทุกคนก็มีความขุ่นเคืองในยามนี้ เพราะไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นสถานการณ์ที่เรากำลังอยู่ในวิกฤติระดับโลก ทั้งเรื่องควบคุมโควิด เรื่องฉีดวัคซีน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง

 “ยืนยันไม่ท้ออะไร สบายๆ เพียงแต่ช่วงนี้เจ็บตาเพราะอาจอ่านหนังสือเยอะ”

เมื่อถามว่ากรณีที่สหพันธ์ฯจะขอขึ้นราคาค่าขนส่ง 20% หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ จะทำให้วงจรค่าขนส่งเปลี่ยนไปหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่สถานการณ์และข้อตกลงของการขนส่ง ระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเขาจะขึ้นได้มากแค่ไหนตามกลไกตลาด

เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจะปล่อยให้ภาคเอกชนขึ้นราคาบริการขนส่งหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ถือเป็นกลไกตลาดเสรี เราจะไปบังคับทุกเรื่องไม่ได้และต้องถามว่าผู้รับบริการจะยอมให้ขึ้นหรือไม่และต้องพูดคุยกันเพราะมีผู้ให้กับผู้รับ