ปรับลง เก็งกำไร CPN ORI SA (11 กุมภาพันธ์ 2565)

ปรับลง เก็งกำไร CPN ORI SA (11 กุมภาพันธ์ 2565)

คาดดัชนีฯ ปรับลง แนวต้าน 1,708 / 1,720 จุด แนวรับ 1,690 / 1,678 จุด (EMA 10 วัน) แนะนำ เก็งกำไร CPN ORI SA ปัจจัยถ่วงตลาดวันนี้ คือ การร่วงลงของตลาดหุ้นโลก

เพราะวิตกเฟดเร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. สูงกว่าคาด (+7.5% YoY Vs คาด +7.3% YoY) และสัญญาณทางเทคนิคเริ่มเกิดการปรับฐานระยะสั้น หลังดัชนีฯ วานนี้เริ่มปรับตัวเป็นวันแรก หลังปรับขึ้น 9 วันทำการ ไฮไลท์วันนี้ อยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจากทางฝั่งยุโรป เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของเยอรมนี และ GDP Growth ของ UK รวมถึงรายงานกำไรของบมจ. ทั้งไทยและสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

        +KTZ Portfolio: Small Cap แนะนำ MC TFG ZEN TACC (ซื้อ TWPC); Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP CENTEL SCB ADVANC BBL EA DTAC MINT KTB TRUE BLA (ขาย JMT และ KKP; ซื้อเพิ่ม KBANK และ TTB)

        +Earnings Play: เก็งกำไรงบ 4Q21E: IVL WICE PTT PTTGC GLOBAL ACE SYNEX

        +Dividend Play: คาดให้ยิลด์ปันผลปี 2021E >3.5% และมี %Upside ต่อราคา >10%: TPIPP SCCC MC SC LPH BANPU NYT SAT IRPC TASCO ASP ORI NER WHAUP HTC CHG

        +กลุ่มรับผลบวกจากนโยบายรัฐ: กลุ่มค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว ไอซีที CPALL CPN SNNP AOT MINT CENTEL ERW ADVANC DTAC TRUE

 

ปัจจัยบวก

      Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติวานนี้ซื้อเพิ่มอีก 8,461.13 ล้านบาท ส่งผลให้ตลอดทั้งเดือน ก.พ. (MTD) ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยแล้ว 37,840.55 ล้านบาท

 

ปัจจัยลบ

      USA / Inflation: เงินเฟ้อเดือน ม.ค. สูงกว่าคาดและสูงสุดรอบ 40 ปี (+7.5% YoY Vs คาด +7.3% YoY) ทำให้ตลาดกังวลเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกกลางเดือน มี.ค. ที่ 0.5% จากเดิมที่ 0.25% (CME Group ปรับเพิ่มโอกาสสูงขึ้นเป็น 85%) และยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 30 เดือน ที่ 2.05% (Vs วันก่อนหน้า 1.935%) เช่นเดียวกับพันธบัตรเยอรมนีสูงสุดรอบ 3 ปี ที่ 0.31%, ญี่ปุ่นสูงสุดรอบ 6 ปี ที่ 0.24%, UK สูงสุดรอบ 3 ปี ที่ 1.565%

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญ

        - Earnings Results วันนี้ จับตารายงานผลกำไร USA: GOODYEAR TIRE, UNDER ARMOUR และ WESTERN UNION ส่วนประเทศไทย จับตา GPSC, GLOBAL, SCCC และ GGC

       - เยอรมนี รายตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. โดย Consensus คาดชะลอตัวลงอยู่ที่ 4.9% จำก 5.3% ในเดือน ธ.ค. 2021

       - อังกฤษ รายงาน GDP Growth 4Q21E โดย Consensus คาดขยายตัว 6.4% YoY

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
 

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย: ดัชนีฯ แกว่งตัวบวกสลับลบในกรอบ 1,696–1,707 จุด ก่อนจะปิดลบไปเล็กน้อยที่ 1,703.00 จุด -0.16 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1.12 แสนล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มธนาคาร +1.14% กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +0.84% กลุ่มพาณิชย์ +0.59% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +0.32% หุ้นบวก >4% PEACE AQ LHFG SABUY WORK PSL TTCL ILM DEMCO TTCL หุ้นลบ >4% TKS XPG WICE NEX RBF SINGER TK SA SYNTEC TNITY

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง ส่วนหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA -1.47% S&P500 -1.81% NASDAQ -2.10% หลังจากรายงานเงินเฟ้อเดือน ม.ค. พุ่งขึ้นสูงกว่าคาด และเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ ออกมากล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยแตะระดับ 1% ภายในเดือน ก.ค. นี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ CAC40 -0.41% DAX +0.05% FTSE +0.38% โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานกำไรออกมาดีกว่าคาดของบริษัท Siemens

 

 

 

+/- น้ำมันดิบปิดคละ ส่วนทองคำปิดบวก: WTI +22 เซนต์ ปิดที่ USD89.88/บาร์เรล Brent -14 เซนต์ ปิดที่ USD91.41/บาร์เรล โดยน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ แม้คาดการณ์อุปสงค์พลังงานแข็งแกร่ง เพราะกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากกว่าคาดหมาย เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ส่วนทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +80 เซนต์ ปิดที่ USD1,837.40/ออนซ์ หลังจากนักลงทุนหันถือครองทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. 2022 อยู่ที่ระดับ 44.8 (Vs 46.2 ในเดือน ธ.ค. 2021) ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 38.7, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 41.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 54.4

- USA: นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ADVANC COM7 JMT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CPN ORI SA

Derivatives: Wait&see หลังปิด Long ทำกำไรไปแล้ววานนี้ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)