เปิดกลยุทธ์"แสนสิริ"ฝ่าวิกฤตโควิดรุกดิจิทัลแอสเสทรับธุรกิจโลกใหม่
"เศรษฐา ทวีสิน" เผยกลยุทธ์ฝ่าคลื่นวิกฤติโรคระบาดในรอบ2ปี ชู “Speed to Market" บริหารแคชโฟลว์ สต็อก พร้อมลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลรับธุรกิจโลกใหม่
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน Digital Transformation for CEO#3 ในหัวข้อ The Leadership Challenge:บริหารองค์กรให้ยั่งยืนและพร้อมรับมือภาวะวิกฤตระยะยาว จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและ ฐานเศรษฐกิจว่า 2ปีที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจอสังหาฯการปรับตัวเร็วขึ้น จากเดิมเศรษฐกิจเริ่มถดถอย หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสัญญาณดังกล่าว บริษัทจึงได้เร่งปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ทันเวลา ภายใต้กลยุทธ์หลัก “Speed to Market”
"เริ่มจากการเร่งระบายสต็อกโครงการที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้กลยุทธ์การตลาดและแคมเปญที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ที่มาจากอินไซต์ของลูกค้า ภายใต้แคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ออกมากระตุ้นการตัดสินใจซื้อลูกค้าได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถบริหารสต็อกและ มีเงินสด(Cash flow)เข้ามา เพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทได้ดี และมีเวลาในการคิดรับมือกับวิกฤติได้อย่างทันท่วงที"
นายเศรษฐา ระบุว่า กระแสเงินสดถือเป็นสิ่งสำคัญ เห็นได้จากในช่วงเศรษฐกิจถดถอยและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่สิ้นสุด ทำให้หลายบริษัทต้องปรับตัวในการบริหารซัพพลายเชน กลยุทธ์ “Speed to Market” ถือเป็นจุดแข็งที่แสนสิริได้เปรียบคู่แข่งในการนำเสนอสินค้าและบริการที่โดดใจลูกค้า
โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้นำเสนอสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่า 10 ล้านขึ้นไป พบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีกระแสเงินสดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างเยอะ เนื่องจากลูกค้ามีการเก็บเงินไว้บางส่วน เมื่อถึงเจอโครงการที่มีคุณภาพและมีผู้พัฒนาที่ให้ความไว้วางใจได้ ทำให้มีกำลังซื้อ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำให้บริษัทสามารถขายที่อยู่อาศัยได้เป็นจำนวนมาก
กลุ่มที่สองคือลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าต่ำกว่า 3-4 ล้านบาท พบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมีการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน หลังจาก3-4 เดือนบริษัทจะต้องมั่นใจและยืนยันว่าลูกค้าต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยจริง อีกทั้งยังพบว่าภายหลังการจองที่อยู่อาศัยหลังจาก4-5 เดือน สถานะทางการเงินจะเปลี่ยนแปลงไปมีโอกาสที่ถูกปฎิเสธสินเชื่อสูง แต่เป็นฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ในตลาดที่แสนสิริให้ความสำคัญ
นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายการลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจในโลกใหม่ ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกซึ่งจะเป็นอีกก้าวของการเติบโตในการสร้างรายได้เพิ่มและพลิกการเปลี่ยนแปลงของโลกบริการทางการเงินดิจิทัล ( Digital Financial) เพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในตลาดคริปโทที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และความน่าสนใจในตลาดคริปโทที่มีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด