บล.กสิกรไทย ชี้เป้าหุ้นน่าลงทุน PSL ค่าระวางเรือขาขึ้น - LH กำไรโตปันผลสูง

บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไทยสัผดาห์หน้า (14-18 ก.พ.) เคลื่อนไหวในกรอบ 1,680 - 1,700 จุด โดยยังเต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดและจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 

โดยตัวเลขเงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐพุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและสูงต่อเนื่องจากเดือนธ.ค. ที่ระดับ 7.0% โดยถือเป็นการขึ้นที่ค่อนข้าง Board base ไม่ได้ขึ้นเฉพาะ Energy price (Natural gas +81%, Oil +66%) เท่านั้น 

โดยรถยนต์มือสองยังปรับตัวขึ้นสูง +45%, ราคากาแฟ +92% และราคาที่พักโรงแรม +37% หลังรายงานตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่ Bond Yield ปรับตัวขึ้น โดยอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นแรงกว่าอายุ 10 ปี ขึ้นมาอยู่แถวระดับ 1.6% และ 2.03% ตามลำดับ

ทั้งนี้ Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ Bond Yield สหรัฐอายุ 10 ปี สู่ระดับ 2.25% ภายในปลายปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 2% ส่งผลให้ส่วนต่าง 2-10 spread แคบลงอีกครั้งแสดงถึงแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายจะปรับตัวเร็วขึ้น

 

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันมากขึ้นหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1% ภายในเดือนก.ค.นี้

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจของ CME Group ล่าสุดบ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 85% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่เคยให้น้ำหนักเพียง 14% เท่านั้นในสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้นักลงทุนยังเริ่มปรับการขึ้นดอกเบี้ยทั้งปีนี้เป็น 6 ครั้ง (การประชุมมี.ค.ขึ้น 50 bps และที่เหลืออีก 5 ครั้งครั้งละ 25 bps)

ซึ่งหากเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์จริงจะถือว่า Fed หันมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจากปลายปีที่แล้วมาก เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังพุ่งสูงต่อเนื่องในขณะนี้ ส่งผลกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเติบโตสูงต่อเนื่องและอาจรวมไปถึงตลาดหุ้นโดยรวมและการเติบโตเศรษฐกิจหากการดำเนินนโยบาย Hawkish เร็วและแรงจนเศรษฐกิจรับไม่ไหว

ดัชนีวัดความผันผวน VIX index ล่าสุดปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 24.5 จุดซึ่งสูงกว่า 20 จุดแสดงถึงตลาดผันผวนสูง ขณะที่ดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 37 จุด ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 จุดแสดงถึงนักลงทุนกลัวต่อการลงทุนถือเป็นสภาวะที่นักลงทุนสาย momentum ต้องระมัดระวังมากขึ้น

ภาพการลงทุนเรามองการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกระจายการลงทุนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนและความไม่แน่นอนสูง คงคำแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม Quality, Value และ Dividend ที่คาดว่าจะสามารถทนทานต่อสถาณการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มเติบโตสูงแต่ระดับมูลค่าแพง ทั้งนี้แนะนำให้มีการเพิ่มเงินสดเพิ่มขึ้นหรือกระจายลงทุนไปสินทรัพย์อื่นเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

โดยมีหุ้น (Top Picks) แนะนำ ดังนี้

- PSL (ราคาพื้นฐาน 24.80 บาท) คาดว่าค่าระวางเรือปีนี้จะเฉลี่ยใกล้เคียงกับปี 64 โดยเฉพาะค่าระวางเรือ supramax ของ PSL ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรงในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อระดับมูลค่าน่าสนใจ PBV ที่ 1.3x (+0.5SD)

- LH (ราคาพื้นฐาน 10.40 บาท) คาดกำไรบริษัทจะฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องในปีนี้จากทั้งยอดขายบ้านที่เติบโตและรายได้จากค่าเช่าและการลงทุนที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากการเปิดเมือง ทั้งนี้บริษัทถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีมูลค่าไม่แพง (Value) และมีอัตราเงินปันผลระดับสูง ซึ่งคาดว่าจะสามารถทนทานต่อตลาดที่มีความผันผวนสูงช่วงนี้ได้ดี

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

-14 ก.พ. : ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.) EU ตลาดคาด 0.5%, รายงานประจำเดือนของธนาคารกลางเยอรมนี 

-15 ก.พ. : ดัชนีจีดีพี (GDP) (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4) ญี่ปุ่น ตลาดคาด1.4%, ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.) US ตลาดคาด 0.4%, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.) US ตลาดคาด 0.4%

-16 ก.พ. : ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.) ตลาดคาด 0.5%, ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.) US ตลาดคาด 0.4%           

-17 ก.พ. : รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (ม.ค.) US ตลาดคาด 1.800M

-18 ก.พ. : ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ม.ค.) US ตลาดคาด 6.10M