"ภากร"เกาะติดหุ้นร้อน ตลท.เตือนระวังลงทุนหุ้นเหมืองบิตคอยน์

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทลุยธุรกิจเมืองขุดคริปโท (Cryptocurrency Mining)วานนี้ (14 ก.พ.)ปรับตัวขึ้นแรงชนซิลลิ่ง นำโดย บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เพิ่มขึ้น 29.47%  หรือ 0.56 บาท มาปิดที่อยู่ที่ 2.46บาทต่อหุ้น,บมจ. ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) เพิ่มขึ้น 29.35%  หรือ 2.70 บาท ปิดที่ 11.90 บาท  และบมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เพิ่มขึ้น 28.26% หรือ 0.13 บาท ปิดที่่ 0.59 บาท

 ด้านบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)หรือ AJA เพิ่มขึ้น16.13%หรือ 0.10 บาท ปิดที่ 0.72 บาท ,บมจ.โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) เพิ่มขึ้น 16.67% หรือ 1 บาท ปิดที่ 7 บาท

 นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่ประกาศจะเข้าไปลงทุนธุรกิจเมืองขุดบิตคอยน์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและ ในวานนี้มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง กล่าวคือ ราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (%Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง แม้บริษัทจดทะเบียนจะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มิได้มีสารสนเทศ หรือพัฒนาการที่สำคัญเพิ่มเติมจากที่เคยแจ้งมาแล้วนั้น

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการแจ้งเตือนนักลงทุนให้พิจารณาข้อมูล ของบจ.ที่แจ้งลงทุนในธุรกิจเมืองขุดบิตคอยน์ โดยต้องวิเคราะห์ และประเมินความเป็นไปได้ ของการทำธุรกิจดังกล่าวโดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะให้บจ.แจ้งข้อมูลมาในระบบของตลาดหลักทรัพย์ให้มากที่สุด เพื่อที่นักลงทุนจะได้มีข้อมูลและวิเคราะห์ได้ ก่อนที่จะเข้าไปซื้อขายหุ้น

นอกจากนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

     “เรื่องความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ติดตามหุ้นทุกตัวที่มีราคาเคลื่อนไหวมากๆ และปริมาณการซื้อขายมากๆเป็นปกติอยู่แล้ว”

 นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด  กล่าวว่า สำหรับมุมมองการลงทุนในหุ้นที่ประกาศเข้าสู่ธุรกิจเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึงเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) นั้น แนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุน โดยสามารถซื้อขายทำกำไร (เทรดดิ้ง) ในระยะสั้นตามกระแสข่าวได้ แต่การลงทุนเพื่อหวังผลระยะยาวยังไม่แนะนำ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงจากราคาเหรียญ เช่น บิทคอยน์ (BTC) ที่ผันผวน

รวมถึงมูลค่า (Valuation) ที่อยู่ในโซนร้อนแรง สะท้อนจากอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ของหลายบริษัทที่ประกาศดำเนินธุรกิจเหมืองขุดเหรียญปรับขึ้นเหนือระดับ 100 เท่า และบางตัวปรับขึ้นสูงถึง 3,000 เท่า กล่าวคือ นักลงทุนต้องใช้ระยะเวลานานถึง 3,000 ปี กว่าที่เงินลงทุน ณ ราคาดังกล่าวจะคืนทุน และแม้จะเริ่มรับรู้กำไรจากธุรกิจเหมืองขุดเหรียญ คาดว่า P/E จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในแง่ปัจจัยพื้นฐาน เพราะ บจ.ส่วนใหญ่ที่ประกาศลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นหุ้นที่นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในตลาดหุ้นจัดทำบทวิเคราะห์น้อยมาก หรือบางตัวไม่มีนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทำการวิเคราะห์เลย จึงไม่สามารถหามูลค่าที่เหมาะสม หรือแนะนำการลงทุนระยะยาวได้

นอกจากนี้ ราคาหุ้นหลายตัวที่ปรับขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น UPA ,JTS และ ZIGA ฯลฯ มองว่านักลงทุนเข้าเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน เช่น วานนี้ที่หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวถูกเทขายออกมาจากปัจจัยลบต่างประเทศที่กดดัน อาทิความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์ แต่ในช่วงที่ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น หุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ประกาศลงทุนเหมืองคริปโทฯ จะมีความเสี่ยงถูกเทขาย

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยไม่แนะนำลงทุนหุ้นที่ประกาศลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทฯ จาก 3 เงื่อนไขหลัก ได้แก่ 1. ต้นทุนการขุด เพราะส่วนใหญ่ที่ประกาศเป็นการจ้างบริษัทอื่นขุดเหรียญ ส่งผลให้ บจ.ที่ประกาศลงทุนไม่ได้รับเหรียญเต็มจำนวน

2. ราคาเหรียญที่ผันผวน เช่น บิตคอยน์ หรืออีเธอเรียม (ETH) ในช่วงที่เหรียญเป็นขาลงจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลง เพราะต้นทุนขุด อาทิ ค่าเครื่องขุด ค่าไฟฟ้า และค่าเสื่อมราคา เหล่านี้ เป็นต้นทุนคงที่ และ 3. ค่าเงินที่ผันผวน เพราะการขุดจะได้รับเงินในสกุลดอลลาร์ซึ่งต้องแลกกลับมาเป็นเงินบาทอีกครั้ง

วานนี่้ (14 ก.พ.2564)UPA ประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency Mining) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยงบลงทุน 25 ล้านดอลลาร์ หรือราว 817.70 ล้านบาท