คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ผ่าน EIA รถไฟฟ้าสายสีเทา - รันเวย์ 2 สนามบินอู่ตะเภา

คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ผ่าน EIA รถไฟฟ้าสายสีเทา - รันเวย์ 2 สนามบินอู่ตะเภา

"ประวิตร" นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ไฟเขียว EIA 4 โครงการสำคัญร่วมรถไฟฟ้าสายสีเทาระยะที่ 1 รันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา สัง่หน้่วยงานลงพื้นที่ สำรวจผลกระทบจากน้ำมันรั่ว จี้ SPRC เร่งเยียวยาน้ำมันรั่ว

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่าวันนี้ (17 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อติดตามขับเคลื่อนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม 

โดยที่ประชุมรับทราบ 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟฟ้ารางเดียวสายสีเทา ระยะที่ 1 วัชรพล - ทองหล่อ

2.โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลวัตต์ ตาก  - แม่สอด

3.โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา - ธนารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ และ 4.โครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

นอกจากนั้นให้ความเห็นชอบกรอบการประชุมระหว่างประเทศ ที่จะจัดขึ้นใน มี.ค.65 ทั้งการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 5  ณ ประเทศเคนยา และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามตะ ว่าด้วยตลอดสมัยที่ 4 ณ ประเทศอินโดนีเซีย  รวมทั้งให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าบริการในการจัดการมูลฝอยติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและคาดการณ์ต้นทุนในระยะเวลา 20 ปี และ การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานที่ฝังกลบมูลฝอย อย่างถูกหลักสุขาภิบาล 

ที่ประชุมฯยังรับทราบรายงาน กรณีการแก้ไขน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลจังหวัดระยอง ซึ่งสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์และขจัดคราบน้ำมันจนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อ 1 ก.พ.65 และมอบหมายให้ ทส.ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสถานภาพของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลกระทบและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามกฏหมายจากบริษัทฯ

 

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร’ได้กำชับขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่วมกันแล้ว เสนอ ครม. ต่อไป  พร้อมทั้งย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจในกระบวนการและมาตรการสิ่งแวดล้อมร่วมกันให้มากขึ้น  ทั้งนี้ต้องไม่ละเลยในทุกเรื่องที่มีการร้องเรียน โดยต้องให้ข้อมูลและทำความเข้าใจ  ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินการร่วมกัน

 สำหรับปัญหาน้ำมันรั่วไหล ขอขอบคุณกองทัพเรือ ที่เป็นหลักสนับสนุนการดำเนินการอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่องที่ผ่านมา และขอให้ ทส.ประสานกับ มท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจความเสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งชายฝั่งและใต้ทะเลให้ทั่วถึง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จัดตั้งคณะทำงานติดตามการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเร่งรัดให้บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รับผิดให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วนให้ทั่วถึงโดยเร็ว

 สำหรับปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้น ขอให้ ทส.ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ เร่งลงพื้นที่ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือกับประชาชน รวมทั้งบังคับกฎหมายในความรับผิดชอบควบคู่กันไป มุ่งลดต้นเหตุของมลพิษที่เกิดขึ้นตามมาตรการที่กำหนด โดยเฉพาะ กทม.และเมืองใหญ่ ทั้งปัญหาจากยานพาหนะ การก่อสร้าง การเผาพืชผลการเกษตร และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขอให้พิจารณาเร่งขับเคลื่อนมาตรการการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน

 ที่ประชุมยังรับทราบ แนวทางการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ที่มอบหมายให้ ทส.ประสาน มท.และ สธ. เพื่อให้องค์กรปกครองท้องถิ่น บริหารจัดการแบบรวมศูนย์ ( Cluster ) และให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต

นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบผลการดำเนินการ ปี 64 จากการสำรวจความเชื่อมั่นในกระบวนการ EIA พบว่า มีระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 80.20 เห็นชอบ 404 โครงการ มีโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ 6,299 โครงการ ได้รับการร้องเรียน 29 โครงการ และรับทราบผลติดตามการปรับลดอัตราการระบายมลพิษทางอากาศ 80:20 พบอัตราการระบายก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ ทส.ดำเนินการต่อและผลักดันให้มีระบบฐานข้อมูลกลางให้มีหน่วยงานกลางกำกับดูแลทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม สำหรับเรื่องร้องเรียน ขอให้ ทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตอบผู้ร้องทุกราย เพื่อรับทราบข้อมูลและสถานะของโครงการไปพร้อมกัน