ปตท.แจงกำไรกว่า 1 แสนล้าน มาจากธุรกิจน้ำมันสัดส่วนเพียง 8%

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพื่อชี้แจงกรณีกลุ่มปตท. มีกำไรสุทธิจำนวน 108,363 ล้านบาท ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand.” วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า กำไรสุทธิคิดเป็น 5% ของยอดขาย โดยหลักจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น จากความต้องการที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก รวมถึงการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกที่มาจาก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ มีสัดส่วนเพียง 8% โดยกลุ่มธุรกิจน้ำมันมีกำไรจากการดำเนินงานต่อยอดขายน้ำมันเพียง 2% ที่รวมทั้งขายกาแฟแบรนด์คาเฟ่ อเมซอน และร้านสะดวกซื้อ ต้องยอมรับว่ากำไรจากการขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊มบางมากๆ ที่ผ่านมาต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ช่วงที่ต้นทุนสูงโออาร์ก็มีต้นทุนสูงขึ้นด้วย แต่โออาร์พยายามไม่ปรับราคาขึ้นทันที บางช่วงติดลบด้วยซ้ำ ดังนั้น กำไร 1 แสนล้านบาทของปตท. ถ้าโฟกัสไปที่โออาร์มีกำไรสุทธิ 2% ของยอดที่ขายได้ทั้งหมด อีกทั้งจำนวนปั๊มน้ำมัน 2,000 กว่าปั๊ม รวมถึงร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน  90% ก็เป็นดีลเลอร์ 

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิกว่า 1 แสนล้านบาทของปตท. แบ่งเป็นชำระหนี้ เข้ากองทุน นำส่งเข้ารัฐ และเตรียมลงทุนตามแผนงานบริษัทฯ รวมถึงทำเพื่อสังคม เช่น ปัญหาโควิด-19 จะยังคงช่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ผ่าน "โครงการลมหายใจเดียวกัน" ที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ มีเตียงสนามครบวงจร โดยช่วงปลายปีผ่านมาช่วงยอดโควิดคลายตัวลงไป ปตท.ก็ไม่ปิดเตียงสนาม พอผ่านปีใหม่มาเมื่อเดือนมกราคม 2565 เริ่มมีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น พบว่าทั้งเตียงเขียว เหลือง และแดงค่อนข้างเต็มแล้ว และยังมี 24 เตียงสำหรับผู้ป่วยฟอกไต

“ปีที่ผ่านมา ปตท.มีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมต่างๆ ทั้งการจ้างงาน กระตุ้นท่องเที่ยวที่ใช้เงินไปหลัก 1,000 ล้านบาท รวมถึงช่วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อาทิ ตรึงราคาเอ็นจีวี และแอลพีจี ช่วยผู้มีรายได้น้อยหลักเป็น 1,000 ล้านบาทเช่นกัน ซึ่งทั้งแอลพีจีและ เอ็นจีวี ตอนนี้ต่อเวลาช่วยเหลือไปราวไตรมาส1/2565 เราก็จะติดตามสถานการณ์เป็นช่วงๆต่อไป” นายอรรถพล กล่าว