AIT ปี 64 กำไร 509 ล้านโต 27% บอร์ดเคาะจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.30 บาทต่อหุ้น
"แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี" เผยปี 2564 มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 7,035 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 509 ล้านบาท เติบโต 5% และ 27% พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า15% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดผลงานครี่งปีหลัง 0.30 บาทต่อหุ้น ชูเป็นหุ้น Dividend Stock
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประกาศผลประกอบการประจำปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 7,035 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และ 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการเติบโตอย่างมั่นคง ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19
โดยในครึ่งปีหลังของปี 2564 เศรษฐกิจไทยโดยรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) ภาครัฐได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น 2) ผลของอุปสงค์คงค้างจากช่วงก่อนหน้า และ 3) มาตรการภาครัฐที่ยังช่วยพยุงกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจ
ความสำเร็จในครั้งนี้ มาจากขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ ทยอยส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ตามกำหนด เช่น โครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบระยะที่ 2, โครงการขายเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสารสนเทศของสำนักงานประกันสังคม และโครงการจ้างบำรุงรักษาและดูแลระบบเครือข่ายของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำ AITเป็นหุ้นปันผล (Dividend Stock) ที่ดีเพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท (พาร์ 1 บาท) โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 เมษายน 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นี้ และเนื่องจากบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท (พาร์ 5 บาท) เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ดังนั้น หากคิดคำนวณจากพาร์ 1 บาท ส่งผลให้ทั้งปี 2564 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลรวมในอัตราหุ้นละ 0.44 บาท
นายศิริพงษ์กล่าวว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่สำคัญในวาระฉลองครบรอบ 30 ปี การก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2535 ได้สร้างผลงานและสะสมประสบการณ์ในเทคโนโลยีต่างๆมาอย่างมากมาย ทำให้ AIT เจริญเติบโตอย่างมั่นคงมาถึงทุกวันนี้
โดยบริษัทฯ ได้รับงานโครงการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ (Hardware/Software) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network) ระบบ Internet และระบบ Data Center ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงขยายขอบเขตงานสู่การเข้ารับงานงานโครงการสร้าง Application บนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว เพื่อใช้ในการทำงานด้านต่างๆ ขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบการจองและออกตั๋วรถไฟและรถขนส่ง และระบบ Clouds บน Data Center
นอกจากนั้น AIT ยังได้รับ งานโครงการ Big Data Analytics ในหลายโครงการ ถือเป็นความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบันและอนาคตเป็นที่ต้องการของตลาดปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น AIT ได้ประกาศปรับวิสัยทัศน์ใหม่สะท้อนการเติบโตอย่างมืออาชีพ ภายใต้วิสัยทัศน์ " AIT เป็นบริษัท Professional ICT Solution Provider ชั้นนำของประเทศที่เติบโตอย่างมั่นคง
ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หรือคิดเป็นรายได้ 7,400 ล้านบาท จากแผนมุ่งเน้นตลาดด้าน Cloud Platform, Big Data Analytics, SDN, Cyber Security, และ IOT เพิ่มเติมจากธุรกิจขายระบบโครงสร้างพื้นฐาน ICT ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) จากปัจจุบัน ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ นอกจากนี้มีงานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกประมาณ 760 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากภาครัฐเป็นหลัก