SPRC คาดไตรมาส 1/65 บุ๊คค่าใช้จ่าย "น้ำมันรั่ว" เพิ่ม จากปัจจุบัน 160 ล้านบาท

นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยว่า สำหรับเหตุน้ำมันรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) มาบตาพุด จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ไม่ได้กระทบต่อการดำเนินการของบริษัท

ขณะที่กระบวนการล่าสุดอยู่ระหว่างสืบค้นสาเหตุของการรั่วไหล โดยมีการตั้งคณะทำงานเพื่อสืบค้น ซึ่งประกอบด้วยหลายส่วนงาน ได้แก่ ตัวแทนของ SPRC ตัวแทนของหน่วยงานราชการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ โดยคาดว่าในระยะเวลาต่อจากนี้ไม่นานจะสามารถค้นพบสาเหตุเพื่อรายงานให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป จากปัจจุบันอยู่ระหว่างทำความสะอาดน้ำมันเพื่ออุดท่ออ่อนที่รั่วไหล

ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริษัท ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการรั่วไหล ขณะที่ในส่วนของเงินช่วยเหลือ บริษัทร่วมกับหน่วยงานราชการเพื่อพิจารณาอัตรา และช่วงเวลาในการจ่าย ซึ่งมีความแตกต่างในแต่ละกลุ่มอาชีพ โดยยืนยันว่าบริษัท จะจ่ายเงินชดเชยอย่างสมเหตุสมผลเป็นธรรม และให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วที่สุด

สำหรับผลกระทบด้านการเงิน บริษัทได้เปิดเผยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขจัดคราบน้ำมันไว้ในงบการเงินปี 2564 ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นหลังงบการเงินไว้ที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 160 ล้านบาท) โดยคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการจ่ายเงินช่วยเหลือ ซึ่งจะถูกบันทึกเข้ามาในงบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างประเมินมูลค่า

อย่างไรก็ดี บริษัทได้รับความคุ้มครองจากประกัน ได้แก่ ประกันคุ้มครองทรัพย์สินและธุรกิจหยุดชะงัก วงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 หมื่นล้านบาท) โดยส่วนแรกคุ้มครองแล้ว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 650 ล้านบาท) ถัดมาคือ ประกันรับผิดต่อบุคคลที่ 3 ทุนประกัน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 พันล้านบาท) คุ้มครองแล้ว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32 ล้านบาท)

เมื่อสอบถามถึงกรณีที่กรมเจ้าท่าศึกษากฎหมายเพื่อถอนใบอนุญาตท่าเรือของ SPRC นั้น นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า การถอนใบอนุญาตขึ้นอยู่กับดุลพินิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา โดยร่วมมือกับหน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กรมควบคุมมลพิเศษ และจังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงมีการทำงานที่โปร่งใส และแจ้งกระบวนการแก้ไขปัญหาในทุกขั้นตอน แม้ว่าจะเกิดเหตุรั่วไหลรอบ 2 บริษัท ก็ได้ปรับปรุงแผนการทำงานให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าเมื่อกำจัดน้ำมันค้างท่อได้แล้ว จะสามารถตรวจสอบสาเหตุเพื่อวางแนวทางป้องกันเหตุน้ำมันรั่วไหลในอนาคตต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์