สมาคมอาหารสัตว์ ผวาวัตถุดิบราคาพุ่งปมวิกฤติยูเครน
สมาคมอาหารสัตว์ จี้รัฐแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่ง หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำผู้ส่งออกลังเลส่งมอบออเดอร์ ชี้ปีนี้อาจเห็นข้าวโพดเกิน 15 บาทต่อกก. ไก่ ไข่ หมู แพงทั้งแผ่นดิน
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ เปิดเผยว่า ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน จะเร่งให้สถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงอยู่แล้วให้แพงยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากยูเครนเป็นแหล่งส่งออกข้าวสาลีที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันราคาปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ให้เคียงกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว ประมาณ 12 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)
การสั่งนำเข้าข้าวสาลีล่วงหน้า ซึ่งจะส่งมอบเดือน เม.ย.- พ.ค. ปัจจุบันได้รับแจ้งว่าอาจส่งมอบไม่ได้ อันเนื่องมาจากแนวโน้มสงครามที่คาดว่าจะรุนแรงมากขึ้น อาจกระทบกับการขนส่งสินค้าด้วย
ความไม่แน่นอนในสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องหาข้าวสาลี และข้าวโพดในแหล่งผลิตอื่นสำรองไว้ เช่นอินเดีย ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งการนำเข้ายังมีอุปสรรคมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลี 3 : 1 ส่วน ซึ่งขณะนี้ไม่มีข้าวโพดให้ซื้อแล้ว การนำเข้าข้าวโพดเสรีจากเพื่อนบ้านก็มีราคาสูงเท่ากับราคาในประเทศไทยเช่นกัน โดยมีแนวโน้มเกิน 15 บาทต่อกก.
"หากวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่เพียงพอ ก็ต้องลดการผลิตลง หรือยอมนำเข้าที่แพงและปรับราคาเนื้อสัตว์ให้สูงขึ้น ทั้งไก่เนื้อ ไข่ไก่ และสุกร โดยการผลิตอาหารสัตว์แต่ละปีจะมีประมาณ 22 ล้านตัน เป็นไปได้ที่ปีนี้จะลดลงเหลือ 17-18 ล้านตัน"
อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมองเห็นแนวโน้มของความรุนแรง แล้วปรับแก้นโยบาย ลดอุปสรรคทางด้านกฎหมาย ก็จะบรรเทาสถานการณ์ลงได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ประกอบด้วยกัน 2 ส่วน ได้แก่
1.สถานการณ์ตลาดโลก ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้
2. นโยบายภาครัฐ ที่ต้องการดูแลราคาพืชอาหารสัตว์ในประเทศ โดยมีการใช้มาตรการที่บิดเบือนกลไกตลาด เช่น การนำเข้าข้าวสาลีโดยจะต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ 3 ส่วนก่อนนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน
นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ราคาข้าวสาลีนำเข้าซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ ราคาปรับสูงขึ้นจาก 8-9 บาทต่อกก. เมื่อปี 2564 เพิ่มเป็น 12 บาทต่อกก.ในปัจจุบัน
ขณะที่ข้าวโพดในประเทศไทยมีราคาปรับไปถึง 11.10 บาทต่อกก. และกำลังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อวัตถุดิบชนิดอื่นที่มีแนวโน้มราคาสูงตามไปด้วย ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ราคาขึ้นมาสูงกว่า 50-60% แล้ว ยังไม่นับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะสูงขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มด้วย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือวอร์รูม ว่า สถานการณ์ราคาสินค้าทรงตัวและบางชนิดเริ่มปรับลดลง โดยเฉพาะเนื้อหมู ราคาลดลงค่อนข้างชัดเจนราคาเฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ 175 บาท
สำหรับเนื้อไก่ ราคาเริ่มทรงตัว เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาที่จำหน่ายในห้างเนื้อน่องติดสะโพก กก.ละ 65 บาท เป็นราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล และในตลาดสด ราคาแตกต่างกันแต่ละพื้นที่ แต่เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 70-75 บาท และคาดว่า แนวโน้มราคาจะยังทรงตัวต่อไป เพราะต้นทุนอื่น ๆ ยังคงที่
นอกจากนี้ วอร์รูมได้มอบหมายให้มีการติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าที่เป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ และสินค้าเกษตรสำคัญ รวมถึงติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการปรับลดหรือขึ้นของสินค้า เช่น ราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม และติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด