Sideways เก็งกำไร PTT PTTEP GFPT (25 ก.พ. 65)

ในขณะเดียวกันตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงซื้อคืน ทำให้พลิกกลับมาปิดบวกได้ ทำให้เอเชีย รวมถึงไทยเช้านี้มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างมากกว่าปรับตัวลงต่อ เนื่องจากในระยะสั้นมีการ Price in สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนไปมากแล้ว ไฮไลน์ประจำวัน คือ ตัวเลข PCE เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ และรายผลประกอบการบจ. อาทิ CHG CPF KWM MINT SHR SQ VIBHA

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

           +KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ BGC DOD SAPPE TACC TFG UTP ZEN (ขาย EPG) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH ADVANC BBL EA KBANK MINT KTB TTB PLANB BLA (ซื้อ COM7 ขำย SCB)

           +Earnings Play: BLA CKP BAM JWD IVL III COM7 BANPU SYNEX

           +Dividend Play: คาดให้ยิลด์ปันผลปี 2021E >3.5% และมี %Upside ต่อราคา >10%: KGI TISCO TPIPP SENA SAT ASP HFT NYT TEAMG NER BANPU SIS ORI TWPC

          +/-กลุ่มรับผลกระทบจากยูเครน: +หุ้นอิงน้ำมันดิบโลก (Stock Gain) PTTEP PTT TOP – หุ้น อิงท่องเที่ยว สายการบิน รับเหมาฯ

 

ปัจจัยบวก

 USA: แรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มเทคฯ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดบวกในช่วงท้ายของการซื้อ ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีโอกาสรีบาวนด์ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากร่วงแรงจากความกังวลภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

 

ปัจจัยลบ

- Geopolitical Risk: ความรุนแรงของสงครามหลังจากรัสเซียประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน โดยหากมีการสู้รบยืดเยื้อ และมีการเข้าร่วมของชาติพันธมิตรของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด

- Thailand: ส.อ.ท เปิดเผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ม.ค. รวมทั้งสิ้น 69,833 คัน ลดลง 31.07% จากเดือนที่แล้ว และลดลง 5.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าเนื่องจากการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลง 58.24% (YoY) จากการขาดเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้ส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด

 

ประเด็นสำคัญ
 

       - Germany: GDP Growth เดือน ม.ค. โดย Consensus คาดหดตัว -0.7% YoY

       - EU: Consumer Confidence เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดติดลบเพิ่มขึ้นที่ -8.8

       - USA: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ตัวเลข PCE และตัวเลขรายรับรายจ่ายส่วนบุคคล (Personal Income & Spending) เดือน ม.ค.

 

Global Market Summary: วันทาการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงแรง: ดัชนีเปิดทิ้งตัวลงมาตามภูมิภาค หลังจากรัสเซียประกาศสงครามกับยูเครน ก่อนจะแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดที่ 1,662.72 จุด -33.73 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1.26 แสนล้านบาท นำลบโดยกลุ่มธนาคาร -2.75% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -2.62% กลุ่มพาณิชย์ -2.61% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -2.53% หุ้นบวก >4% NUSA NVD IT ILINK STARK ห้นุ ลบ >4% PPP SABUY WIN TRC EVER STECH TWZ CWT MACO APURE

+/- หุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดบวก ส่วนหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +0.28% S&P500 +1.50% NASDAQ +3.34% แกว่งตัวปิดบวกในช่วงท้ายการซื้อขาย ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้ประธานาธิบดีไบเดน เปิดตัวมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่อันหนักหน่วงเล่นงานรัสเซีย หลังมอสโกรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ หุ้นยุโรป CAC40 -3.83% DAX -3.96% FTSE -3.88% ร่วงหนัก หลังจากรัสเซียประกาศสงครามยูเครน ทำให้ตลาดกังวลว่า Supply Chain ในภูมิภาคยุโรปจะได้รับผลกระทบจากสงคราม

 

+ น้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +71 เซนต์ ปิดที่ USD92.81/บาร์เรล Brent +USD2.24 ปิดที่ USD99.08/บาร์เรล หลังรัสเซียโจมตียูเครน ก่อความกังวลอุปทานพลังงานโลกปั่นป่วน ก่อนแกว่งตัวลงปิดบวกเพียงเล็กน้อย หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่าสหรัฐฯ ปล่อยน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกมาเพิ่มเติม ขณะที่ทองคำ +USD15.90 ปิดที่ USD1,926.30/ออนซ์ จากความกังวลต่อปฏิบัติการโจมตียูเครนของรัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

- USA: ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า วิกฤตการณ์ในยูเครนจะส่งผลกระทบในระยะกลางต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เฟดใช้ประกอบการพิจารณาถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยระบุว่าความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อย่าแย่ลง และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะใกล้ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในปีนี้ ขณะที่อุปสงค์อ่อนตัวลง แต่เงินเฟ้อจะยังคงอยู่เหนือ 2% ทั้งในปีนี้และปีหน้า

- USA: EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว

- Ukraine: ผู้ช่วยของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ทหำรรัสเซียสามารถเข้ายึดโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองเชอร์โนบิลแล้ว ทั้งนี้ เต่าปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเมืองเชอร์โนบิลได้เกิดระเบิดขึ้นในปี 1986 ส่งผลให้กากนิวเคลียร์จำนวนมากฟุ้งกระจายสู่ชั้นบรรยากาศ จนทำให้หลายพื้นที่ในยุโรปปนเปื้อนกัมมันตรังสี และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BLA SPALI ASIAN

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PTT PTTEP GFPT