ศึกชิงเจ้าแห่ง “น้ำอัดลม” เริ่ม! บิ๊กแบรนด์ประลองกำลัง โกยยอดขาย

ศึกชิงเจ้าแห่ง “น้ำอัดลม” เริ่ม!  บิ๊กแบรนด์ประลองกำลัง โกยยอดขาย

น้ำอัดลมยกทัพสู้ศึกหน้าร้อน ปลุกตลาด 60,000 ล้านบาท แข่งเดือด เป๊ปซี่-แฟนต้า ชูสูตรไม่มีน้ำตาล เจาะผู้บริโภค สิงห์ เลมอนโซดา ผนึกพี่ใหญ่ "ซีพีเอฟ" จัดโปรโมชั่น หวังยอดโตเพิ่ม 20-30% เอส โคล่า ยึดแพลตฟอร์ม TikTok ครีเอทวิดีโอสั้น ดึงวัยทีนร่วมกิจกรรม

หน้าร้อนเป็นไฮซีซันของสินค้าเครื่องดื่ม ที่บิ๊กแบรนด์ต่างระเบิดศึกทำการตลาดแข่งกัน เฉพาะการสื่อสารการตลาดในช่วงซัมเมอร์ที่มีแนวโน้มร้อนปรอทแตกขึ้นทุกปี “มีเดีย อินเทลลิเจนซ์” เพิ่งคาดการณ์งบประมาณโฆณาหมาดๆว่า ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2565 จะเห็นเม็ดเงินในตลาดเพิ่ม 2,000 ล้านบาท โตราว 10% หรือมูลค่ารวมทะลุ 21,700 ล้านบาท

สินค้าหน้าร้อนหนีไม่พ้นเครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดเครื่องปรับอากาศ(แอร์) สินค้าแฟชั่น หมวก แว่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ บิกินี ครีมกันแดดต่างๆ เป็นต้น

มาดูกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกฮอล์กันบ้าง ที่มีตัวเลขหลัก “แสนล้านบาท” ครอบคลุมน้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ(ฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์) น้ำแร่ น้ำผลไม้ โซดา น้ำผสมวิตามิน กาแฟพร้อมดื่ม ฯ เหล่านี้ หน้าที่หลักคือช่วยดับกระหาย ให้ความสดชื่น แก่ผู้บริโภค ซึ่งตอบโจทย์ดับร้อนช่วงซัมเมอร์

ทว่ามิติการตลาด กลับไม่ดับร้อนได้ เพราะทุกแบรนด์แข่งเดือด กลุ่มที่คิกออฟแคมเปญกันคึกคักต้องยกให้ “น้ำอัลม” ทั้งน้ำดำ และน้ำสี โดยตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่าหลัก 60,000 ล้านบาท

แต่ละแบรนด์ลุยแคมเปญปลุกตลาดอย่างไร กรุงเทพธุรกิจ ชวนผู้อ่านเกาะติดกลยุทธ์

++เป๊ปซี่ ปลุกน้ำดำไม่มีน้ำตาล

ประเดิมยักษ์ใหญ่ระดับโลก “เป๊ปซี่” กับภารกิจพยายามทวงคืนบัลลังก์เบอร์ 1 ออกตัวรับร้อนด้วยการส่งแคมเปญ “เป๊ปซี่ไหนก็อร่อยเหมือนกัน” ซึ่งแบรนด์ได้ควงพรีเซนเตอร์หนุ่มฮอตขวัญใจสาวๆ “บิวกิ้น - พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” มาส่งต่อความซ่าของเป๊ปซี่ และเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาล

ลัดดาวรรณ เลิศวศิน ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มเป๊ปซี่ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เป๊ปซี่ ประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดความซ่าผ่านแคมเปญดับร้อนรับซัมเมอร์ด้วยแคมเปญ “เป๊ปซี่ไหนก็อร่อยเหมือนกัน” เพื่อเสิร์ฟตรงความซ่าในทุก “โมเมนต์” แห่งความสุขให้กับทุกคน

ศึกชิงเจ้าแห่ง “น้ำอัดลม” เริ่ม!  บิ๊กแบรนด์ประลองกำลัง โกยยอดขาย เพราะร้อนนี้คือแคมเปญทำเงิน จึงใช้ “พรีเซ็นเตอร์” เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ ติดอาวุธปลายนวมให้การตลาด และ “บิวกิ้น – พุฒิพงศ์” ได้สวมบทเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการส่งต่อความสนุก สดใส ซ่า ท้าลอง ชวนทุกคนมาลองเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาล ชวนร่วมสนุกจัดเต็มในทุกกิจกรรมของเป๊ปซี่ด้วย

ส่วนการสื่อสารตลาดจัดเต็มแบบ 360 องศา ทั้งสื่อต่างๆ ดิจิทัลแคมเปญ กิจกรรมออนกราวน์ และสื่อ ณ จุดขาย อินฟลูเอนเซอร์ และโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตร ตลอดจนสร้างปรากฎการณ์ความปังรูปแบบใหม่กับขบวนคาราวานรถเป๊ปซี่ที่จะตระเวนเดินสายแจกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาลให้ได้ชิมกัน พร้อมของขวัญมากมายจากเป๊ปซี่ ซึ่งแคมเปญนี้จะออกสตาร์ทกิจกรรมสนุกตลอดซัมเมอร์นี้ ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

++ “แฟนต้า” #WTF กลับมาอีกครั้ง!

ส่วนกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ซึ่งมีทั้ง บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าแคมเปญ “WHAT THE FANTA” เป็นปีที่สาม ชวนผู้บริโภคมาไขปริศนารสชาติลึกลับน้ำอัดลมสี ซึ่งปีนี้มาในสีฟ้าของ “แฟนต้า”

แคมเปญ #WTF ของแฟนต้านั้น ปีแรกสร้างกระแสได้อย่างดี เอ็นเกจเมนต์สูง ดึงผู้บริโภคมาร่วมสร้างประสบการณ์ค้นหาเครื่องดื่มทั้ง 4 รสชาติ เมื่อมี “ความสำเร็จ” เป็นทุนเดิม จึงนำมาต่อยอดอีกครั้ง

ศึกชิงเจ้าแห่ง “น้ำอัดลม” เริ่ม!  บิ๊กแบรนด์ประลองกำลัง โกยยอดขาย ริชา ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โคคา-โคล่า ประจำประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้สนุกกับแคมเปญ ‘WHAT THE FANTA’ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2561 กับน้ำอัดลมสี่รสชาติลึกลับที่มีบรรจุภัณฑ์แบบเดียวกัน ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภค ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ “แฟนต้า” ในการเป็นแบรนด์ที่เพิ่มสีสันความสนุกซ่าให้กับโลกที่เต็มไปด้วยความเครียด

เมื่อแบรนด์ฟังสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการเสมอมา และตระหนักดีว่าผู้บริโภคชาวไทยตั้งตารอที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ ทำให้แคมเปญ “WHAT THE FANTA” ปล่อยออกมาให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการพัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ

ทั้งนี้ ไม่เพียงเพื่อตอบสนองความความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังมุ่งให้ได้สัมผัสประสบการณ์จากการค้นพบเครื่องดื่มอัดลมสีรสชาติผลไม้ต่างๆด้วย แค่ครั้งนี้ “แฟนต้า” ฉีกตลาดด้วยการรังสรร “เครื่องดื่มม็อกเทล”และเป็นน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล

ส่วนช่องทางจำหน่ายไม่เพียงเสิร์ฟลูกค้าด้วยรูปแบบกระป๋องขนาด 325 มิลลิลิตร(มล.) และขวดพีอีที(PET) ขนาด 330 มล. แต่ยังผนึกแมคโดนัลด์เปิดตัว แมคโฟรเซ่น WHAT THE FANTA เป็นครั้งแรกเพื่อให้จับคู่เมนูอาหารของแมคโดนัลด์ โดยมีให้เลือก 4 แบบ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

++สิงห์ เลมอนโซดา ผนึกซีพีเอฟเพิ่มโอกาสดื่ม

แม้ “สิงห์” จะมีเครื่องดื่มโซดา เป็นหนึ่งในพระเอกหมวดนอนแอลกอฮอล์ แต่น้องใหม่ที่แจ้งเกิดอย่างสวยงามคือ “สิงห์ เลมอนโซดา” ซึ่งเป็นการต่อยอดจุดแข็งความซ่าโซดาสิงห์ มาสู่น้ำอัดลม และเพียงปีเศษ ถือว่าสร้างการเติบโตที่ดี

ยิ่งช่วงแรกของการเปิดตัวออกสู่ตลาด สินค้าถูกกว้านซื้อเกลี้ยงชั้นวาง(เชลฟ์) ตู้แช่ จากรสชาติแรกเลมอนโซดา สิงห์เสริมทัพด้วย “ส้มยูซุ” กระป๋องส้ม ล่าสุด การทำตลาดของสิงห์คือการได้จับมือกับยักษ์ใหญ่ธุรกิจอาหารอย่าง “ซีพีเอฟ” เจ้าภาพริเริ่มแคมเปญ “สายดื่ม...ต้องมี CP โบโลน่าพริก”

โดยโจทย์การตลาดดังกล่าว คือการพยายามเพิ่ม “โอกาส”(Occasion) ของการบริโภคสินค้ามากขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะสายดื่มที่ต้องกินคู่กับอาหาร

พรรณทิพย์ ลีตะชีวะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด หรือสิงห์ เล่าว่า เดือนพฤษภาคม บริษัทกับซีพีเอฟ จะจัดโปรโมชั่นพิเศษ เสริมทัพแคมเปญดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ฐานลูกค้าทั้ง 2 แบรนด์ขยายวงกว้างมากขึ้น นำไปสู่ยอดขายที่จะเติบโตเพิ่ม

ศึกชิงเจ้าแห่ง “น้ำอัดลม” เริ่ม!  บิ๊กแบรนด์ประลองกำลัง โกยยอดขาย “ตลาดเครื่องดื่มช่วงหน้าร้อนมีการเติบโตกว่าปกติราว 8-10% เมื่อบวกกับโปรโมชั่นการเติบโตจะมากขึ้นระดับ 20-30%”

++เอส ชวนผู้บริโภคสร้างประสบการณ์ซ่า

ส่วนยักษ์เครื่องดื่มเอเชียอย่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” ที่มีไทยดริ้งค์ นำทัพเครื่องดื่มนอนลแอลกอฮอล์ เดินหน้าแคมเปญรับร้อน โดยชวนผู้บริโภคมา “สนุกซ่าสุดซี๊ด กับเอส โคลา” ซึ่งงานนี้ไม่เพียงมีพรีเซ็นเตอร์ “โอม-นนน” มาปลุกตลาด แต่ยังดึงบรรดานักแสดงชั้นนำมากมายมาร่วมกิจกรรมสนุกๆด้วย

นอกจากนี้ กลยุทธ์ของเอส โคล่า คือการจัดกิจกรรมแจกรางวัลต่างๆ แต่ต้องถ่ายคลิปวิดีโอ ดื่มเอสให้ซ่าสุดซี้ดในแบบของคุณ ลงในช่องทาง TikTok ส่วนตัว พร้อมติด #ซ่าสุดซี้ดแน่แค่มีest ซึ่งจะเห็นว่าแบรนด์มุ่งสร้างกระแสให้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มมาแรงอย่างติ๊กต๊อก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายวัยทีนชื่นชอบกันอย่างมาก

ปัจจุบันติ๊กต๊อกมีฐานผู้ใช้งานราว 18 ล้านราย และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายราว 54.8% และโปรไฟล์ผู้ใช้งานอายุตั้งแต่ 18-35 ปี และขยายสู่กลุ่มอายุ 44 ปีมากขึ้น

ตลาดน้ำอัดลม 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในหมวดใหญ่สุดของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้นการห้ำหั่นดุเดือดขนาดนี้ ล้วนมุ่งชิงยอดขายตุนไว้แต่เนิ่มๆ เพราะผ่านไฮซีซั่นไปไม่รู้จะเจอเหตการณ์ความไม่แน่นอนอะไรบ้าง ทุกรายจึงไม่มีใครยอมใคร ส่วนยอดขายแบรนด์ไหนจะโกยมากสุด คงต้องติดตาม!