เปิด11 อันดับ ‘แบงก์’ จ่าย Dividend Yield สูงสุด งวดปี 64
เปิด ปันผล 11 แบงก์งวดปี 2564 พบแบงก์ให้ปันผลสูงสุ 5อันดับแรก คาด TISCO ที่ 7.0 บาท ถัดมา SCB ที่ 4.06บาท BBL 3.50 บาท KBANK 3.25 บาท และ TCAP 3.0 บาท ส่วน Dividend Yield สูงสุดพบว่า TCAP ให้สูงสุดที่ 7.40%
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มการเงินการธนาคารปี 2564 ที่ทยอยประกาศเกือบครบทุกธนาคารแล้ว โดยรวมถือว่าการจ่ายเงินปันผล ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง หากเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา
อีกทั้งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ยังอยู่ภายใต้เกณฑ์กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ยังคงกำหนดให้จ่ายเงินปันผลไม่เกินอัตรา 50% ของกำไรสุทธิประจำปี 2564
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากดูการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มแบงก์ปี 2564 โดยรวมถือว่าดีกว่าปีก่อน ราว 40% จากกำไรสุทธิของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้น จากภาระสำรองที่ลดลง
โดยคาดการณ์แบงก์ที่จ่ายปันผลสูงสุดปีนี้ คือTISCO ซึ่งสูงสุดหากเทียบกับทั้งกลุ่ม โดยคาดอยู่ที่ 7.00บาท ขณะที่ SCB ปีนี้จ่ายปันผลอยู่ที่ 4.06 บาท แต่การแปลงโครงสร้างไปสู่ SCBx จะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนเพิ่ม จากการจ่ายเงินปันผลพิเศษ โดยคาดการณ์ว่าจะจ่ายอยู่ที่ 6.00 บาท
ซึ่งรวมแล้ว หากนับจากเงินปันผลเดิม และเงินปันผลพิเศษ คาดว่านักลงทุนจะได้ผลตอบแทนกว่า 10.00 บาท ซึ่งการจ่ายเงินปันผลพิเศษ บนโครงสร้างของ SCBx ถือเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้นักลงทุน ในการแปลงสภาพหุ้นไปสู่ SCBx ตามเป้าหมายที่SCBx ตั้งเป้าหมายไว้
ส่วนการคาดการณ์การจ่ายเงินปันผล ปี 2565 คาดว่าจะดีกว่าปี 2564 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนกำไรของกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และภาระสำรองที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งหนุนกำไรของแบงก์ปี 2565 โดยรวมออกมาดีขึ้น อีกทั้งหากสถานการณ์ดีขึ้น มีโอกาสที่ธปท. จะปลดล็อกและยกเลิกการกำหนดการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มธนาคาร ให้สามารถกลับมาจ่ายได้ตามปกติมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ปันผลปี 2565 มีทิศทางสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม หากดูอัตราการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มธนาคาร 5อันดับแรก คือ ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) TISCO ที่ 7.10 บาท ถัดมาคือ ไทยพาณิชย์(SCB) จ่ายอยู่ที่ 4.06บาท ธนาคารกรุงเทพ ที่ 3.50 บาท ธนาคารกสิกรไทยที่ 3.25 บาท และสุดท้ายที่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TCAP ที่ 3.00 บาท
แต่หากดูในแง่การของให้ Dividend Yield หรือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล จากสัดส่วนระหว่างเงินปันผลต่อหุ้น (Dividend per shares) หากเทียบกับราคาหุ้น ณ วันที่ประกาศจ่ายเงินปันผล พบว่าที่ให้ Dividend Yield สูงสุด 5อันดับแรก คือ TCAP โดยให้ Dividend Yield สูงถึง 7.40 %หากเทียบการจ่ายเงินปันผล ที่ 3.00 บาท และราคาหุ้นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศจ่ายปันผลที่ 40.50 บาท
ถัดมาคือ TISCO คาดว่า โดยให้ Dividend Yield ที่ 7.10 % จากเงินปันผลที่ 7.00 บาท ขณะที่ราคาหุ้น 97.50 บาท ถัดมาคือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยจ่ายปันผลที่ 2.95 บาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 69.75 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 4.22%
ขณะที่ SCB ปันผลอยู่ที่ 4.06 บาท ราคาหุ้น อยู่ที่ 126 บาท ทำให้ Dividend Yield อยู่ที่ 3.22% และ KTB ปันผลที่ 0.42 บาท ราคาหุ้นที่ 14.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.00%
ด้านธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์(LHFG) จ่ายปันผลที่ 0.04 บาท ราคาหุ้น ที่1.41 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ 2.83% ขณะที่ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต(ttb)จ่ายปันผลที่ 0.038 บาท เทียบกับราคาหุ้นที่ 1.38 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ 2.75%
ด้าน ธนาคารกรุงเทพ(BBL) ปันผลอยู่ที่ 3.50 บาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 141.50 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ 2.47% ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) ปันผลที่ 0.85 บาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 35.25 บาท ทำให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.41%
ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ปันผลที่ 3.25 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นที่ 167 บาท ทำให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.94% และสุดท้ายคือ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT) โดยปันผลที่ 0.01 บาท ราคาหุ้นที่ 0.91 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ 1.09%