บลจ.กรุงไทย สร้างโอาสการลงทุนแห่งอนาคต ผ่านกองทุน KT-EPIC
KTAM จับจังหวะหุ้นทั่วโลกปรับฐานและเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มกำลังเริ่มฟื้นตัวใน1-2ปีข้างหน้า เปิดตัวกองทุน “กองทุนเปิดเคแทม E.P.I.C. Global Equity Opportunities (KT-EPIC)” เน้นการลงทุนในธีมเด่น “การลงทุนแห่งอนาคต” เปิดเสนอขาย IPO 1-10 มี.ค. นี้ ไม่มีวงเงินลงทุนขั่นต่ำ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2565 มีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะเข้าใกล้เคียงระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปลายปี 2565 ขณะที่แนวโน้มการลงทุนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับ 3 ธีมหลัก ประกอบด้วย 1. Digital Transformation 2. สุขภาพและความมั่งคั่ง 3. ธีมเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธีมดังกล่าวมีอัตราการเติบโตที่สูงเมื่อเทียบกับการลงทุนในด้านอื่น
KTAM มองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้น จึงมุ่งมั่นออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนไทย ภายใต้ชื่อ “กองทุนเปิดเคแทม E.P.I.C. Global Equity Opportunities หรือ KT-EPIC จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 1-10 มีนาคม 2565 นี้ เริ่มต้นลงทุนได้โดยไม่กำหนดเงินลงทุนขั่นต่ำ
กองทุน KT-EPIC ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Feeder Fund โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน E.P.I.C. Global Equity Opportunities Fund (กองทุนรวมหลัก) เพียงกองเดียว ในชนิดหน่วยลงทุน (Share class) “I” ในสกุลเงินดอลล่าสหรัฐ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนรวมหลักจะมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการเติบโตของเงินลงทุน บนความผันผวนระดับปานกลางถึงสูง
โดยการกระจายการลงทุนและบริหารพอร์ตการลงทุนแบบเชิงรุก ที่มุ่งเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นๆ ใน 3 ธีมการลงทุนที่สำคัญของโลก ได้แก่ สุขภาพและความมั่งคั่ง (Health and Wealth) การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) และโลกที่ยั่งยืน (Sustainable Planet) และมีนโยบายการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก และไม่อิงกับดัชนีอ้างอิงใดๆ
กองทุนหลักได้รับการจัดกลุ่มโดย European Union’s Sustainable Finance Disclosure regulation (SFDR) ให้เป็นกองทุนที่อยู่ในภายใต้ Article 9 ซึ่งหมายความว่า กองทุนรวมหลักจะต้องมีเป้าหมายการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน และต้องมีส่วนร่วม / ให้การสนับสนุนประเด็นทางสิ่งแวดล้อม (E) และสังคม (S) และต้องมั่นใจว่าบริษัทที่กองทุนหลักลงทุนอยู่ ต้องมีบรรษัทภิบาลที่ดี (G)
อีกทั้งกองทุนรวมหลักจะใช้การลงทุนแบบ Multi Manager ที่กระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน มีความยืดหยุ่นสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว เป็นพันธมิตรกับกองทุนชั้นนำแต่ละกลุ่มสินทรัพย์ และเสียค่าใช้จ่ายการบริหารให้เฉพาะกับผู้จัดการกองทุนที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนได้ (ที่มาของข้อมูล: Architas ณ เดือน ม.ค. 2565)