SAWAD กำไรปี 64 ทะลุ 5 พันล้าน ขึ้นแท่่นผู้นำนอนแบงก์ ประกาศปันผล 1.80บาท/หุ้น
ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น กำไรสุทธิปี 64 ที่ 5,056 ล้าน หนุนผลงานกำไรสุทธิสูงที่สุดในกลุ่มนอนแบงก์ จากอานิสงส์ธุรกิจใหม่โบรกเกอร์ประกัน – สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใหม่ ประกาศปันผล 1.80บาท/หุ้น ตั้งเป้าปี 65 รายได้โตแตะหมื่นล้านต่อเนื่อง พร้อมดัน SCAP เข้าตลาดทุนเสริมแกร่ง
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2564 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 5,056.39 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 4,788.28 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.60% โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,230.83 ล้านบาท นับเป็นรายได้ที่เติบโตระดับหมื่นล้านต่อเนื่องติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
ทั้งนี้รายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงรายได้จากธุรกิจใหม่นายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัย อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากผลขาดทุนเครดิตลดลงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่บริษัทสามารถควบคุมได้ทำให้ปรับลดลงถึง 1,086.96 ล้านบาท ตลอด 4 ไตรมาสของปี 2564 ส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯมีกำไรสุทธิสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจนอนแบงก์ของธุรกิจนี้
“ ปี 2564 นับเป็นอีกปีที่ SAWAD ต้องฟันฝ่าทั้งสถานการณ์โควิด-19 การแข่งขันธุรกิจจำนำทะเบียนรถที่มีผู้เล่นมากราย ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเราสามารถปรับตัวได้เกือบทั้งหมด ทำให้ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจด้วยผลกำไรที่โตโดดเด่น นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งมาจากการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อกระจายความเสี่ยง และมีความหลากหลายทางธุรกิจไม่พึ่งพิงเพียงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง และการเพิ่มพันธมิตรในการทำธุรกิจซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงปีหน้าที่เรายังเดินหน้าหาธุรกิจและพันธมิตรใหม่ต่อไป ดังนั้นด้วยผลงานที่เติบโตเด่นในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นในบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2564 ในอัตรา 1.80 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ”
นางสาวธิดา กล่าวต่อถึงแผนงานสำหรับปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า’ซึ่งเป็นความร่วมมือของบริษัทและพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในวงการ Electric Equipment ทำให้พอร์ตธุรกิจของ SAWAD มีความหลากหลายและสามารถกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
ขณะเดียวกันพร้อมเดินหน้าจับมือร่วมกับพันธมิตรใหม่ในระหว่างทางเพื่อหาโอกาสใหม่ในการเติบโตของธุรกิจ นอกจากนี้ยังเร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาธุรกิจเดิมให้ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่ปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าในอดีต
พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกกว่า 500 สาขา รวมเป็น 5,500 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะถูกผลักดันเพื่อสร้าง SAWAD Ecosystem ในการเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตของกลุ่มบริษัท