กรุงไทย ชี้วิกฤต “รัสเซีย-ยูเครน” ดันแนวโน้มลงทุนทองพุ่ง

กรุงไทย ชี้วิกฤต “รัสเซีย-ยูเครน” ดันแนวโน้มลงทุนทองพุ่ง

กรุงไทย เผยวิกฤติสงคราม รัสเซีย-ยูเครน กระตุ้นนักลงทุนแห่ ซื้อ-ขายทองคำ สินทรัพย์ปลอดภัย ดันราคาทองทำนิวไฮใหม่ 1,976.50 หรียญสหรัฐต่อออนซ์ ส่งยอดเปิดใช้บริการ Gold Wallet พุ่งทะลุ 60,000 บัญชี

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อ-ขายทองคำผ่านแพลตฟอร์ม “Krungthai Gold Wallet”  มีมูลค่าสูงสุดนับจากการเปิดให้บริการซื้อ-ขายทองคำออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เทขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าทำการซื้อ-ขายทองคำและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์และสกุลเงินที่ปลอดภัย

หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้หลายประเทศทั่วโลกดำเนินการคว่ำบาตรต่อประเทศรัสเซีย ส่งผลต่อราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนระหว่างวันกว่า 90 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์และปรับขึ้นสูงสุดของสัปดาห์อยู่ที่ 1,976.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาแตะที่ระดับ 32.885 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐและมีแนวโน้มจะปรับตัวอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะวิกฤติระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด เพื่อหาโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ แพลตฟอร์ม Krungthai Gold Wallet มีผู้สนใจเปิดใช้บริการเพิ่มมากขึ้นกว่า 60,000 บัญชี

สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์นักลงทุน ทำให้สามารถลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้ ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือประมาณ 6,000 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำ วันและเวลาที่ทำรายการ ซื้อ-ขายทองบน Gold Wallet) ซื้อขายทองด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างอิงราคาตลาดโลก เปิดให้ซื้อขายในช่วงวันทำการ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00-02.00 น. เพื่อให้นักลงทุนซื้อ-ขายได้อย่างต่อเนื่อง ในเวลาที่ตลาดต่างประเทศเปิดทำการ ทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสจากการปรับตัวขึ้นลงของราคาทองคำในตลาดโลก

 

โดยธนาคารมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการลงทุน ครอบคลุมสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม บนช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ได้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
           
ทั้งนี้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงพันธกิจหลักของธนาคารในการให้ความสำคัญการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม  ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดในการทำ ESG Financial Solution ที่พร้อมตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น

พร้อมตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในหลายๆด้าน ทั้งในด้านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนายกระดับการเงินการลงทุน นำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) ให้เป็น “Thailand Open  Digital Platform”  ทำให้ทุกกิจกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการใช้จ่าย รวมถึงการออมและการลงทุน เป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย  ทำรายการได้ทุกที่ ทุกเวลา