TDRI จี้ EEC แจงปมตั้งบริษัทลูกบริหารอู่ตะเภา

TDRI จี้ EEC แจงปมตั้งบริษัทลูกบริหารอู่ตะเภา

TDRI จี้ สกพอ.ชี้แจงตั้งบริษัทลูกบริหารอู่ตะเภา ห่วงงานทับซ้อนกับเอกชนผู้รับสัมปทาน หวั่นซ้ำรอยบริษัทลูกหน่วยงานอื่น

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย หรือ TDRI ระบุ การที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. จัดตั้งบริษัท คือ บริษัท อีอีซี พัฒนาสินทรัพย์สนามบิน จำกัด เพื่อบริหารสัญญาร่วมลงทุนในสนามบินอู่ตะเภานั้น คงต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งและแนวทางดำเนินงานให้ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าจะมีบางกิจกรรมที่บริษัทลูกแห่งนี้รับต่อมาจาก สกพอ.หรือที่เรียกกันว่าสำนักงานอีอีซี 

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม คือ เหตุใดสำนักงานอีอีซีจึงต้องจัดตั้งบริษัทลูก การบริหารจัดการเรื่องใดที่ทำแล้วไม่คล่องตัวจนต้องมีบริษัทลูก รวมถึงผลของสัญญาสัมปทานที่ต้องพิจารณารายละเอียดด้วยเช่นกันว่าจะไม่ทับซ้อนกับเอกชนผู้รับสัมปทานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภามาอย่างถูกต้อง เนื่องจากสัญญา PPP ได้จัดทำขึ้นมาก่อนการตั้งบริษัทลูก สำนักงานอีอีซีจะต้องชี้แจงประเด็นเหล่านี้ให้ชัดเจน

และแน่นอนสิ่งที่ประชาชนอยากจะทราบคือเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินงานของบริษัทลูก  ถ้าตั้งขึ้นมาแล้วเป็นปัญหาหรือไม่ได้เป็นประโยชน์มากนัก ก็ไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้ง

ที่ผ่านมาเคยมีการจัดตั้งบริษัทลูก เช่นกรณีของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.ตั้งบริษัทลูกเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการเดินรถ ช่วยให้บริหารจัดการบุคลากรได้ง่าย มีความคล่องตัว แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อจำกัดด้านการลงทุน 

ดร.สุเมธ ย้ำว่า การจัดตั้งบริษัทลูกเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีความชัดเจน ถูกต้องตามระเบียบราชการ มีความโปร่งใสและยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก