บล.กสิกรไทย เผยหุ้นเด่นรับศึกสงครามรัสเซียยูเครน เน้นเกาะติดราคาโภคภัณฑ์

บล.กสิกรไทย เผยหุ้นเด่นรับศึกสงครามรัสเซียยูเครน เน้นเกาะติดราคาโภคภัณฑ์

บล.กสิกรไทย มองหากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อ หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำ BANPU, PTTEP, BCP แต่ถ้าสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลง เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Anti-commodities แนะนำ EPG, SCGP, BGRIM, GULF, PTG, OR, AAV, BA

บล.กสิกรไทย มองหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (7-11 มี.ค.) เคลื่อนไหวในกรอบ 1,660 – 1700 จุด โดยต้องติดตามสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งฝ่ายวิจัยยังมองประเด็นดังกล่าวนี้เป็น "กลาง" ถึง "บวก" ให้น้ำหนัก Indicator คือ Credit Default Swap (CDS) ของรัสเซีย หากไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ (ปัจจุบันปรับลงลงต่อเนื่องลงมา 3 วันติด) มองเป็นจังหวะซื้อหุ้น

แต่อีกด้านจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งน้ำมัน, ถ่านหิน, อะลูมิเนียม, พาราเดียม ฯลฯ อ่อนตัวลง เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Anti-commodities (EPG, SCGP, BGRIM, GULF, PTG, OR, AAV, BA) ในทางกลับกันหากความตึงเครียดยังมีอยู่คาดยังบวกต่อกลุ่มพลังงาน BANPU, PTTEP, BCP แนะนำ Trading

ส่วนประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ก่อนหน้านี้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นลบ (-) แต่ล่าสุดได้ปรับขึ้นมาเป็นกลาง (0) เดิมตลาดมองว่า Fed จะ Hawkish หรือเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ปัจจุบันหลังประธานเฟดแถลงต่อสภาคองเกรสจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps ในรอบเดือนมี.ค. (เดิมก่อนหน้าตลาดคาดจะขึ้น 50bps) 

และขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมรอบถัดไป คือ 3-4 พ.ค. รวมจะเริ่มแตะแผนลดงบดุล Balance sheet คาดเริ่มในรอบเดือนมิ.ย. (เร็วกว่าแผนเดิม) และใช้เวลาทำ 3 ปี  โดยฝ่ายวิจัยเชื่อว่าโทนการประชุม Fed วันที่ 15-16 มี.ค. จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน หนุนหุ้นกลุ่ม Growth อาทิ CHAYO, JMT, BBIK, BE8    

ด้านสถานการณ์ในประเทศยังให้น้ำหนักต่อการระบาดของโควิด-19  หากทิศทางยังสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ คาดเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเปิดเมือง (Reopen) แต่หากรัฐไม่คุมเข้ม หรือ Lockdown แบบรุงแรง คาดกดดันตลาดหุ้นช่วงสั้น

โดยมีหุ้น (Top Picks) แนะนำ ดังนี้

- BAM (ราคาพื้นฐาน 24.00 บาท) เรามีมุมองเชิงบวกตามเดิม โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าจัดเก็บเงินสด 1.75 หมื่นล้านบาท (+9%YoY) หนุนจาก NPLs ที่คาดจะมีผลตอบแทนสูงกว่า NPAs และการร่วมทุนกับธนาคารจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565  ล่าสุดมีการจัด “มหกรรมบ้าน ที่ดิน คอนโด 2565” ช่วยสนับสนุนยอดขาย NPA ในช่วงสั้นในงวด 1Q65

- BANPU (ราคาพื้นฐาน 12.00 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.96 หมื่นล้านบาท จากราคาถ่านหินและก๊าซที่ทรงตัวในระดับสูง กำไรพิเศษจากการขาย Sunseap และการขาดทุนจาก hedging ที่น้อยลง / ความตึงเครียดยังมีอยู่คาดยังบวกต่อกลุ่มพลังงาน

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

-7 มี.ค. : รายงานการส่งสินค้าออกของจีน (ปีต่อปี) (ก.พ.) ตลาดคาด 15.0%, ปริมาณการนำเข้าสินค้าของจีน (ปีต่อปี) (ก.พ.) ตลาดคาด 16.5%, ดุลการค้าของจีน- สกุลเงินดอลลาร์ (ก.พ.) ตลาดคาด 99.50B

-8 มี.ค. : ดัชนีจีดีพี (GDP) (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4) EU ตลาดคาด 0.3%, ดัชนีจีดีพี (ปีต่อปี) (ไตรมาส 4) EU ตลาดคาด 4.6%

-9 มี.ค. : รายงานสินค้าคงเหลือของน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API, ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (ปีต่อปี) (ก.พ.) ตลาดคาด9.5%, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (ปีต่อปี) (ก.พ.) ตลาดคาด1.0%

-10 มี.ค. : แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB, ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (ก.พ.) US ตลาดคาด 0.5%

-11 มี.ค. : ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี (เดือนต่อเดือน) (ก.พ.) ตลาดคาด 0.4%