กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ 7-11 มีนาคม: ช่วงสั้นยังแกว่งตัวลง แนะทยอยซื้อสะสม

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ 7-11 มีนาคม: ช่วงสั้นยังแกว่งตัวลง แนะทยอยซื้อสะสม

ในสัปดาห์ที่แล้ว (28 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม) ดัชนี SET เคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์ แต่ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงตามที่เราคาดไว้ โดยตลาดดีดกลับในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากมีสัญญาณว่าสหรัฐ และพันธมิตรจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติการต่อต้านรัสเซีย

และความเห็นของนาย Powell ประธาน Fed ว่า FOMC ต้องระมัดระวังมากขึ้นในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ระดับปกติ นอกจากนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ ก่อนที่ภาวะการซื้อขายจะกลับมาอ่อนแอลงอีกครั้งในวันศุกร์ โดย Traders หันมาระมัดระวังมากขึ้นหลังจากมีข่าวว่ารัสเซียเข้า
ไปยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศยูเครน ซึ่งทำให้สถานการณ์เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

 

สำหรับในสัปดาห์นี้ (7-11 มีนาคม) เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะพอฟื้นตัวได้บ้าง โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสองข่าวเกี่ยวกับกรณีรัสเซีย-ยูเครนที่อาจจะช่วยหนุนภาวะตลาดให้ดีขึ้น ข่าวแรกคือมีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วตั้งแต่เย็นวันเสาร์ตามเวลาประเทศไทยในพื้นที่สองจังหวัดสำคัญของประเทศยูเครน ข่าวที่สองคือมีรายงานข้อเท็จจริงออกมาว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนไม่สามารถจะระเบิดได้เหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุดเตาปฏิกรณ์จะหลอมละลายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์จะยังคงมา ๆ ไป ๆ อยู่ตลอดสัปดาห์เนื่องจากชาติตะวันตกยังคงเดินหน้าคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป และอาจจะทำให้รัสเซียดำเนินการตอบโต้กลับมาได้

 

 

 

ติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และดัชนี CPI สหรัฐ

(0) ความคืบหน้าของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนจะกำหนดทิศทางของตลาด เช่นเดียวกับในสัปดาห์ที่แล้ว กระแสข่าวเกี่ยวกับการปะทะกันด้วยกำลังทหารในยูเครนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน โดยนักลงทุนจะต้องติดตามกรอบเวลาของการเจรจาระหว่างสองฝ่ายรวมทั้งการเพิ่มการคว่ำบาตรและการตอบโต้จากทางรัสเซีย

(0) ดัชนี CPI เดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐอาจจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ในวันพฤหัสบดี จะมีการรายงานตัวเลข headline CPI และ core CPI เดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะทำสถิติใหม่สำหรับวัฏจักรเศรษฐกิจรอบนี้ที่ 7.9% และ 6.4% ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน การที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้จากการปะทะกันของกำลังทหารรัสเซีย-ยูเครนอาจจะทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐเร่งตัวขึ้นอีกในเดือนมีนาคม แต่จะส่งผลกับการตัดสินนโยบายการเงินของ Fed ไม่มากนัก เพราะ Fed ต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และปัจจัยความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจมหภาคที่เกิดจากวิกฤติยูเครนรอบใหม่นี้

ยังมองว่าการปะทะด้วยกำลังทหารจะอยู่ในวงจำกัด แนะนำซื้อสะสมท่ามกลางตลาดที่ผันผวนช่วงสั้น ถึงแม้เราจะคาดว่าตลาดจะยังคงผันผวนในระยะสั้น หลังจากที่ความพยายามล่าสุดในการเคลื่อนย้ายพลเรือนในเขตที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงไม่ประสบผล แต่เรายังคงเชื่อตามกรณีฐานของเราว่าการปะทะกันด้วยกำลังทหารจะอยู่ในวงจำกัด และเมื่อรัสเซีย-ยูเครนเจรจากันได้สำเร็จ ภาวะตลาดทั่วโลกจะพลิกเป็นบวกได้ ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสมหุ้น large-cap ในกลุ่มการบริโภคภาคเอกชน และหุ้นในธีม re-opening ซึ่งเป็นธีมการลงทุนหลักของเรานช่วงนี้