SAK ผู้เล่นรายเล็กในตลาดภูธร (7 มี.ค. 65)
บริษัทคาดว่าจะขยายสาขาในพื้นที่ชุมชนที่มีประชากรหนาแน่นเพื่อสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อและเข้าถึงลูกค้าใหม่ (เพิ่มสาขาใหม่ปี ละ 200 สาขา)
ดังนั้น เราจึงคาดว่าสินเชื่อของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 25%/17% ในปี 2565F/2566F โดยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อ nano finance และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่จะเป็นหลักในการขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัท
yield สินเชื่อสูงกว่า peers
yield สินเชื่อของ SAK ยังคงอยู่ในช่วง 23-24% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 17-19% เพราะ yield เพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อ nano finance และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ (yield อยู่ที่ 28%) ในขณะที่สินเชื่อรวมขยายตัวถึง 36% YoY ในปี 2564 เราคาดว่า yield สินเชื่อจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 24.2%/24.1% ในปี 2565F/2566F ในขณะที่คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะอยู่ที่ 2.9%/3.1% ในปี 2565F/2566F
ยอดปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่สูง และบริหารจัดการ NPLs ได้ดี
SAK ดำเนินธุรกิจโดยใช้กลยุทธ์ดังนี้ i) พนักงานของสาขาต้องเป็นคนพื้นที่ ซึ่งรู้จักภูมิหลังของลูกค้า (ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร/พ่อค้าแม่ค้า) ii) ปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่สูงมาก โดยอยู่ในวิสัยที่ผู้กู้จะสามารถชำระคืนได้ และ iii) เสนอเงื่อนไขการชำระหนี้แบบยืดหยุ่นให้กับลูกค้าเพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ของลูกค้า ดังนั้น บริษัทจึงสามารถรักษาสัดส่วน NPL ratio ไว้ได้ที่ <2.2% ในขณะที่เราคาดว่าสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมจะอยู่ที่ 2.3%/2.4% ในปี 2565F/2566F
Valuation and action
เราคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรในอีกสองปีข้างหน้าของ SAK จะอยู่ที่ประมาณ 30%/21% ในปี2565F/2566F ภายใต้สมมติฐานว่าพอร์ตสินเชื่อรวมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 25%/17%, yield สินเชื่อจะอยู่ที่ 24.2%/24.1%, สัดส่วน C/I จะดีขึ้นเป็น 52.5%/51.7%, และ credit cost จะอยู่ที่ 250bps/260bps โดยเราประเมิน P/E เหมาะสมของ SAK ที่ 25x สะท้อนถึง PEG ที่ 0.8x เราเริ่มต้นศึกษาหุ้น SAK ด้วยคำแนะนำ ถือ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 9.50 บาท
Risks
อุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, yield สินเชื่อลดลง, NPLs เพิ่มขึ้น