“หมีคู่ดาว” พึ่งพลัง “สหพัฒน์” เจาะร้านค้าทั่วไทย

นางสาว สถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัททำตลาดแป้งข้าวโม่น้ำและแป้งผสมสำเร็จรูปเจาะธุรกิจอาหาร และผู้บริโภคมายาวนานกว่า 40 ปี แต่ที่ผ่านมาเน้นขายในพื้นที่ภาคตะวันออกเท่านั้น แต่เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์แป้งฯ มีขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท การเติบโตเป็นอัตรา 1 หลัก และคู่แข่งน้อยรายราว 4 แบรนด์เท่านั้น จึงมองเห็นโอกาสในการป้อนสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดใหญ่ แต่ 2 ปีที่ผ่านมา เกิดวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจำนวนมาก จึงฉุดตลาดแป้งผสมอาหาร แป้งข้าวโม่น้ำหดตัวถึง 20%

สำหรับแนวทางการขยายตลาดจากนี้ไป บริษัทได้ทรานส์ฟอร์มการเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาคสู่แบรนด์ระดับประเทศ ขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ด้วยการผนึกบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) ช่วยกระจายสินค้าเจาะร้านค้าทั่วไปที่มีหลักหลายแสนแห่งทั่วไทย จากจุดแข็งการเป็นผู้เชี่ยวชาญกระจายสินค้ายาวนาน มีเครือข่ายร้านค้าจำนวนมาก บริษัทจะขยายช่องทางจำหน่ายเจาะห้างค้าปลีกสมัยใหม่อย่างแม็คโครตั้งแตเดือนเมษายนเป็นต้นไปด้วย

นอกจากนี้ การขยายช่องทางจำหน่ายในช่วงวิกฤติโควิด ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาพลังงานเชื้อเพลิงพุ่ง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้า สหพัฒน์ฯจึงแนะนำให้บริษัทปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ไซส์สินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จึงบริการจัดการใหม่จากกล่องกระดาษ ไปใช้พลาสติกพีพีที่มีความบางขึ้น เดิมขายสินค้า 10 กิโลกรัม(กก.)ต่อ 1 ลัง ขยายเป็น 20 กิโลกรัมต่อ 1 กระสอบ เป็นต้น

“ตอนนี้ต้นทุนสินค้าโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น 5% โดยเฉพาะพลังงานเชื้อเพลิง โรงงานเราใช้น้ำมันเตา ราคาจึงปรับขึ้นตามน้ำมัน รวมถึงการขนส่งสินค้า แต่เนื่องจากเราเพิ่งทำตลาด จึงไม่ขยับราคาตอนนี้ อาจพิจารณาโครงสร้างราคาอีกครั้งไตรมาส 3”

ทั้งนี้ การร่วมมือกับสหพัฒน์ บริษัทคาดว่าจะผลักดันยอดขายปี 2565 แตะ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนมียอดขาย 600 ล้านบาท ส่วนเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า ต้องการผลักดันรายได้แตะ 1,200-1,500 ล้านบาท จะโฟกัสส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรปมากขึ้น รับตลาดพรีเมียม ซึ่งลูกค้าต้องการใช้แป้งเป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ หนุนความต้องการเติบโตราว 20%

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สหพัฒน์เน้นจำหน่ายสินค้าอาหารสำเร็จรูปต่าง ส่วนแป้งผสมสำเร็จรูป “หมีคู่ดาว” เป็นกึ่งวัตถุดิบ จึงพบการขายบางช่องทางมีความทับซ้อนกัน และพนักงานยังไม่รู้วิธีการนำเสนอ ตลอดจนดูแลสินค้า อีกทั้งต้องปรับขนาดสินค้า เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับร้านเล็กด้วย ที่สำคัญกระจายสินค้าทั่วประเทศต้องทำให้สอดคล้องกับต้นทุนโลจิสติกส์ด้วย

“ปกติร้านค้าเชื่อมั่นในสินค้าจากสหพัฒน์อยู่แล้ว แต่หมีคู่ดาวเป็นสินค้าใหม่ รู้จักกันในภาคตะวันออก ภาคกลาง แม้พื้นที่อื่นจะพร้อมรับสินค้า แต่เราต้องทำตลาดควบคู่การกระจายสินค้าด้วย ส่วน 6 เดือนเดือนที่ผ่านเป็นช่วงของการศึกษาตลาด ประกอบกับเกิดโควิดระบาดทำให้พบว่าลูกค้ายังเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่คุ้นเคย แต่ละพื้นที่กลุ่มเป้าหมายมีแบรนด์ในใจอยู่แล้ว จึงเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง”