วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (11 มี.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรัสเซียให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาในการส่งมอบพลังงาน
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในที่ประชุมว่า มอสโกซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่และเป็นผู้จัดส่งก๊าซหนึ่งในสามของยุโรป จะยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีตามสัญญาในการส่งมอบพลังงาน ทำให้ตลาดคลายความกังวลลงต่อสถานการณ์อุปทานตึงตัว อีกทั้งนักลงทุนเริ่มมองว่าตลาดกังวลเรื่องอุปทานมากเกินไป ทั้งทีรัสเซียยังคงมีอุปทานอยู่อีกมาก
+/- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ส่งสัญญาณขัดแย้งกัน โดยนายซูฮาอิล อัล-มาซโรอี รัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนายโอไทบา เอกอัครราชทูตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประจำสหรัฐฯ ที่แถลงว่าจะสนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) เพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันตึงตัว โดยนายซูฮาอิลยืนยันว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะยังคงยึดมั่นตามมติของโอเปคพลัส ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในแต่ละเดือน
- ตลาดยังคงจับตามองความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลา และความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ซึ่งจะทำให้มีอุปทานน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นจากการส่งออกของเวเนซุเอลาและอิหร่าน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูงจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดยังคงกังวลกับอุปทานน้ำมันดีเซลที่ยังค่อนข้างจำกัด