กระท่อม ’เสียบยอด’ ราคาพุ่งต้นละหมื่น!
อดีตครูเพาะขยายพันธุ์ และเสียบยอดพืชกระท่อมในพื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมันขายรายได้งาม แพงสุดต้นละ 10,000 บาท ออเดอร์เพียบ และยอมโค่นยางที่เหลืออีกเกือบ 30 ไร่
อดีตครูเพาะขยายพันธุ์ และเสียบยอดพืชกระท่อมในพื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมันขายรายได้งาม แพงสุดต้นละ 10,000 บาท ออเดอร์เพียบ และยอมโค่นยางที่เหลืออีกเกือบ 30 ไร่ ขยายพื้นที่เพาะขยายและปลูกแทนยาง เชื่อเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทดแทนยางพาราและปาล์มน้ำมันในอนาคต ตลาดกว้างทั่วโลก เพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และใช้พื้นที่แหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการปลูกพืชกระท่อมและปลูกปาล์มน้ำมันแก่ประชาชนและเกษตรกรทั่วไป โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตเอง แทนปุ๋ยเคมีที่ราคาแพงและกำลังขาดแคลน
ี่สวนปาล์มน้ำมัน อายุประมาณ 4 ปี ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นของนายพสิษฐ์ บุญยอด อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู และเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน พร้อมผู้นำฝ่ายปกครองในพื้นที่ นำผู้สื่อข่าวดูพื้นที่แปลงเพาะขยายพันธุ์ต้นกล้าพืชกระท่อมที่มีนับล้านต้น จากจำนวน 3 สายพันธุ์คือ กระท่อมก้านแดง กระท่อมก้านแดงหางกั้ง และกระท่อมเขียวใบโพธิ์ ในพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ( จากเนื้อที่สวนปาล์ม 14 ไร่) โดยแตกต่างจากแปลงเพาะขยายพันธุ์กระท่อมพื้นที่อื่นๆ คือ ใช้พื้นที่ว่างในสวนในปาล์มน้ำมันซึ่งได้ปริมาณแสงที่พอดีแก่มาทำเป็นแปลงเพาะ ซึ่งมีทุกขนาด ทั้งต้นอ่อน และต้นที่กำลังเติบโต และต้นที่ได้ขนาดรอส่งขายตามออเดอร์ของลูกค้าที่มีเข้ามาทั้งในจังหวัด ต่างจังหวัด และทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่แปลงทำการขยายพันธุ์พืชกระท่อมทั้งหมด 2 วิธี คือ 1.การเพาะเมล็ด โดยต้นกล้าพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเมล็ด
ลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นเกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกพืชหลักชนิดเดิม เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าว หันมาปลูกพืชกระท่อมแทน โดยมีหลายราคาตั้งแต่ต้นละ 60 - 200 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และ 2. จากการเสียบยอด โดยการนำยอดของพืชกระท่อมทั้ง 3 สายพันธุ์มาเสียบยอดบนต้นกระท่อมขี้หมู ซึ่งเป็นพืชกระท่อมในพื้นที่ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยซื้อจากชาวบ้านที่ขุดมาขายให้ ในราคาต้นละ 10 บาท และถึงหลักหลายร้อยบาท แล้วแต่ขนาดของต้น จากนั้นนำยอดของกระท่อมก้านแดง กระท่อมก้านแดงหางกั้ง และกระท่อมเขียวใบโพธิ์มาเสียบยอด ทำให้แต่ละต้นอาจได้ถึง 3 สายพันธุ์ หรือเสียบยอดตามออเดอร์ของลูกค้า ราคาขายหลังเสียบยอดก็ขึ้นอยู่กับขนาดเช่นกัน ตั้งแต่หลักร้อย ถึงแพงสุดประมาณ 10,000 บาท ซึ่งมีไม่พอขาย เป็นที่นิยมของลูกค้ามีเงิน ที่ต้องการนำไปปลูกที่บ้าน เพื่อไว้เก็บกินเป็นยาสมุนไพรในครัวเรือนใช้รักษาโรค หรือตามร้านค้า ร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันต่างๆ โดยลูกค้าจะสั่งเข้ามาทางออนไลน์และปากต่อปาก
นายพสิษฐ์ บุญยอด อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู เจ้าของแปลงพืชกระท่อม กล่าวว่า ตนเองเริ่มหันมาจับพืชกระท่อมตั้งแต่มีการประกาศปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากสารเสพติด โดยสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์มารอไว้ก่อน และสั่งซื้อต้นกระท่อมขี้หมูมาจากชาวบ้าน โดยเบื้องต้นขณะนี้ เริ่มจากขยายพันธ์ขาย ทำในพื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมัน ในระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน ทำรายได้งดงามนับล้านบาท เป็นที่ต้องการของเกษตรกรที่หันมาปลูกกันมากขึ้น เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่อนาคตสดใสที่ทั่วโลกยอมรับ เพราะใช้เป็นยารักษาโรคความดัน เบาหวาน ที่มีผู้ป่วยทั่วโลกเช่นกัน และอนาคตรองรับความเติบโตในภาคอุตสาหกรรมยา และล่าสุด ตนเองตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้งเพิ่มอีก 2 แปลง รวมเนื้อที่ 28 ไร่ โดยแปลงแรกที่กำลังโค่นและปรับพื้นที่อยู่ขณะนี้ เนื้อที่ 14 ไร่ โดยยางอายุได้ 30 ปี และตนเองปลูกปาล์มน้ำมันแซมลงไปได้ อายุ 4 ปี เดิมตั้งใจว่าเมื่อโค่นยางทิ้งก็เก็บผลผลิตปาล์มน้ำมันได้เลย แต่เปลี่ยนแผนหลังเห็นผลตอบรับดี แม้ราคาปาล์มกำลังดี แต่ตนตัดสินใจโค่นปาล์มดังกล่าวทิ้งด้วย แต่ขณะนี้เหลือไว้รอทำเป็นร่มเงาก่อน โดยเอาพื้นที่มาขยายแปลงเพาะรองรับตลาด และเอาพื้นที่มาปลูกกระท่อม เพื่อเก็บใบขายด้วย และอีก 14 ไร่ที่เหลือ ก็กำลังจะทยอยตัดโค่นยางพาราเช่นกัน เชื่อว่าหากปลูกแล้วเสร็จนับจากนี้ 4 เดือน ก็สามารถเก็บใบขาย สร้างรายได้งามเช่นกันแน่นอน และมีแนวคิดจะพัฒนานำใบมาต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วยตนเองด้วย ซึ่งทั้งกล้าพันธุ์และใบกระท่อม เป็นสินค้าที่กำลังต้องการสูงของตลาด