BCH - กำไรแนวโน้มขาลง (วันที่ 14 มีนาคม 2565)

แม้จะมีการปรับลดราคาเบิกจ่ายลง การปลดล็อคอุปสงค์คงค้างผู้ป่วยโรคไม่เร่งด่วน, การฉีดวัคซีนโมเดอร์นา,  และเปิดศูนย์สุขภาพใหม่จะหนุนการเติบโต เราปรับ TP ขึ้น 3% เป็น 23.1 บาท ในระยะสั้นเงินปันผล 1 บาทต่อหุ้น ผลตอบแทน 4.3% เป็นปัจจัยบวก XD วันที่ 11 พ.ค. คงคำแนะนำ ถือ 

 

จำนวนผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น qoq

จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสร้างระดับสูงสุดใหม่วันที่ 26 ก.พ. และคงอยู่ในระดับสูงกว่า 20,000 ราย จำนวนการตรวจ RT-PCR รายวันเพิ่มขึ้น 28% qoq เป็น 54,807 ช่วง 1 ม.ค. -19 ก.พ. BCH เพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยในรพ.ขึ้น 22% เป็น 1,349 เตียงและฮอสพิเทลขึ้น 89% เป็น 17,901 เตียง ในช่วง 2M22 จำนวนการตรวจ RT-PCR รายวันของเครือรพ. เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 66% qoq เป็น 3,664 ครั้ง จำนวนผู้ป่วยโควิดในรพ.เพิ่ม 12% เป็น 979 ราย/เดือน และในฮอสพิเทลเพิ่ม 348% เป็น 12,484 ราย/เดือน กระทรวงสาธารณสุขวางแผนประกาศโควิด - 19 เป็นโรคประจำถิ่นภายใน 1 ก.ค. สะท้อนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงใน 2H และไม่มีการตรวจโควิดในพื้นที่เสี่ยง

 

 

 

 

ปรับลดราคาค่าบริการ

BCH ลดราคาสำหรับผู้ป่วยที่จ่ายค่ารักษาเอง โดยการเปิดฮอสพิเทลทางเลือกราคา 28,000 บาทต่อแพคเกจ (เทียบกับ 40,000-50,000 บาทในปีที่ผ่านมา) และปรับราคา RT-PCR ลงเป็น 2,000-2,500 บาทจาก 3,000-3,500 บาท สำนักงานประกันสังคมอนุญาตให้ผู้ป่วยสีเขียวเบิกจ่ายค่าฮอสพิเทลในอัตราไม่เกิน 2,000 บาทต่อวัน เป็นเวลา 7 คืนถึงเดือนเม.ย.  เราเชื่อว่าหลังจากนั้นประกันสังคมจะใช้มาตรการ UCEPCOVID+  ส่วนก่อนหน้านี้ตั้งแต่ 1 มี.ค. กระทรวงสาธารณสุขได้ลดราคาเบิกจ่าย UCEPCOVID ของการตรวจ RT-PCR ลง 27-31% (Fig 11-13) และอัตราค่าห้องสำหรับผู้ป่วยสีเขียว (รพ., ฮอสพิเทล, รพ. สนาม, การกักตัวที่บ้านหรือชุมชน) ลง 20-33% เป็น 6,000 บาทสำหรับการรักษาน้อยกว่า 7 วันและ 12,000 บาทสำหรับการรักษา 7 วันหรือมากกว่า และตั้งแต่ 16 มี.ค. ผู้ป่วยสีเขียวต้องใช้รพ.ตามสิทธิ (ประกันสังคม, สวัสดิการข้าราชการ, สปสช.) เพื่อได้รับการรักษาฟรี ส่วนผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงได้สิทธิรักษา UCEPCOVID และสามารถรักษาที่สถานพยาบาลได้ทุกแห่งจนหายโดยไม่ต้องย้ายรพ.

 

ปรับคาดการณ์กำไร, คงคำแนะนำ “ถือ” และ ปรับ TP เป็น 23.1 บาท

จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ช่วงจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเปลี่ยนเป็นใน 2Q เราจึงปรับประมาณการปี FY22F ขึ้น 42% เป็น 2.6 พันลบ. และปี FY23F 6% เป็น 1.9 พันลบ. สะท้อนกำไร BCH จะลดลง 62% ปีนี้และ 25% ปีหน้า เราประมาณการสัดส่วนรายได้เกี่ยวกับโควิด (รวมการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา)/ต่อรายได้รวมลดลงเป็น 39% จาก 58% ปีที่ผ่านมา กำไรมีแนวโน้มลดลงจาก 1Q เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดและแย่สุดใน 4Q