ครม.ขยายเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมันฯ "สุพัฒนพงษ์" ยันยังตรึงดีเซล 30 บาท/ลิตร
ครม.เคาะขยายเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมันฯ “สุพัฒนพงษ์” ชี้ช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทได้นานขึ้น รับต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเป็นรายวันแม้ราคาในตลาดโลกปรับลดลง ชี้ยังใช้เงินอุดหนุนดีเซลอยู่ลิตรละกว่า 7 บาท
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงาน ตามมติคณะกรรมการนโนบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยขยายเพดานเงินกู้ของกองทุนน้ำมันฯจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 4 หมื่นล้านบาท เป็นไม่กำหนดเพดานการกู้เงินสำหรับกองทุนน้ำมันฯ โดยความสามารถของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถที่จะกู้เงินได้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
โดยวงเงินกู้เงินที่ ครม.ขยายเพิ่มให้จะทำให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรได้นานขึ้น
เมื่อถามว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในช่วงนี้ทำให้เบาใจมากขึ้นหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่าก็บริหารจัดการได้มากขึ้น แต่ก็ขอดูสถานการณ์เป็นรายวัน เพราะตอนนี้การอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลต่อลิตรยังคงใช้เงินสูงอยู่คือประมาณลิตรละ 7 บาท ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
เมื่อถามว่าแล้วการช่วยเหลือน้ำมันเบนซินจะมีหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานไม่ได้ตอบคำถามแต่หันมาบอกว่า “อันแน่” แล้วเดินขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกบัญชาการชั้น 2 ทันที
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 65 ที่เห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/64 เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 64 ในส่วนของแผนรองรับวิกฤตการณ์ ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉ. ปรับปรุง ครั้งที่ 1) และแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ร่างแผนรับรองวิกฤติด้านน้ำมันเชื้อเพลิงฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ทบทวนหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมัน ฯ ยกเลิกการกำหนดวงเงินบริหารกองทุนน้ำมัน ฯ รวมวงเงินกู้ยืมต้องไม่เกิน 40,000 ล้านบาท จากเดิมที่แผนรองรับวิกฤต ฯ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ระบุการบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน ฯ ต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้แล้วต้องไม่เกิน 40,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะมีการออกร่าง พ.ร.ฎ. เพื่อแก้ไขกรอบวงเงินดังกล่าวต่อไป รวมทั้งยังได้มีการปรับกลยุทธ์การถอนกองทุนน้ำมัน ฯ (Exit Strategy) โดยให้ยกเลิกการปรับสัดส่วนการช่วยเหลือลงครึ่งหนึ่ง เมื่อฐานะกองทุนน้ำมันใกล้ติดลบตาม พ.ร.ฎ. ขยายกรอบวงเงินฯ กู้ เป็น 30,000 ล้านบาท แต่ยังคงดำเนินการหารือการปรับลดภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ระดับราคาไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากนักและเริ่มดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กองทุนน้ำมันไม่ขาดสภาพคล่อง
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงแผนรองรับวิกฤตการณ์ ในส่วนของหลักเกณฑ์การบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน ฯ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้มีเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน ฯ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย