CENTEL - เพชรเม็ดงาม (วันที่ 15 มีนาคม 2565)

CENTEL - เพชรเม็ดงาม (วันที่ 15 มีนาคม 2565)

เราปรับคำแนะนำ CENTEL ขึ้นเป็น ซื้อ TP ใหม่ที่ 44 บาทต่อหุ้น (+22% จาก 36 บาท) เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2022 ขึ้นจากขาดทุนเป็นกำไร 581 ลบ. และปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 68%-33% ปี FY23-24

การปรับสมมติฐานหลักมาจากการปรับอัตรากำไรจากดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เริ่มตั้งแต่ 4Q20 ทำให้เราปรับอัตรากำไรขั้นต้นของโรงแรมขึ้นเป็น 66% จาก 60% และปรับสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลงเป็น 34% จาก 38% ใน 2022

 

ดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นทำให้โครงสร้างต้นทุนดีขึ้น

หลังเราตรวจสอบประเด็นอัตรากำไรที่ดีกว่าปกติใน 4Q21 (โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้นของโรงแรมที่ 63% จาก 47% ใน 4Q20) เราเชื่อว่าอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจะคงอยู่ได้ ซึ่งเป็นผลจากดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เริ่มตั้งแต่ 4Q20 ทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและทำให้จำนวนพนักงานลดลงเป็น 3 พันคน ณ สิ้นปี 2021 (จาก 5.1 พันคน ในปี 2019) แนวโน้มต้นทุนส่วนนี้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อกับอัตราเข้าพัก และเทียบกับในปี 2019 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นและ EBIT ดีขึ้นต่อเนื่อง

 

 

 

 

ปรับคาดการณ์กำไรขึ้นจากอัตรากำไรที่ดีขึ้น

เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2022 ขึ้นเป็นกำไร 581 ลบ. จากขาดทุน 962 ลบ. และปรับกำไรขึ้น 68%-33% ในช่วงปี 2023-2024 โดยปรับสมมติฐานหลักจากโครงสร้างอัตรากำไรที่ดีขึ้นจาก 1). ลดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขาย (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) เป็น 34% (จาก 38%) ใน 2022 เทียบกับ 34.5% ใน 4Q21  และ 2). เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของโรงแรมเป็น 66% (จาก 60%) ใน 2022 เทียบกับ63% ใน 4Q21 อีกส่วนหนึ่งคือการปรับสมมติฐานอัตราเข้าพักเพิ่มเป็น 46% (+8%) ใน 2022 อ้างอิง guidance อัตราเข้าพักของ CENTEL ที่ 40-50% ซึ่งช่วยชดเชยการปรับ SSSg ลงเป็น 12% (จาก 15%) ตาม guidance

 

ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ TP 44 บาทต่อหุ้น

หลังการปรับคาดการณ์กำไร เราปรับ TP ปี 2022 ขึ้นเป็น 44 บาทต่อหุ้น (+22% จาก 36 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานของโรงแรมจากอัตรากำไรช่วยเร่งการเติบโตของกำไร เราคงมุมมองว่าอัตราค่าห้องพักในไทยจะแตะระดับปี 2019 ในปี 2023 อนุรักษ์นิยมกว่าโรงแรมในมัลดีฟส์, EU, และสหรัฐฯที่มีอัตราค่าห้องสูงกว่าระดับในปี 2019 5-20% ในช่วงปัจจุบันโครงสร้างต้นทุนใหม่จะเป็นปัจจัยช่วยต้านทานความเสี่ยงดาวน์ไซด์