ตลท. แย้มเล็งตั้ง 'กองทุนเอสเอ็มอี' เอื้อรายย่อยเข้าลงทุน
“ตลาดไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” พร้อมเปิดให้บริการ 31 มี.ค. เผย มีเอสเอ็มอี -สตาร์ทอัพ 3 บริษัท ธุรกิจ"เฮลธ์แคร์เทคฯ -อาหาร-ไอที จ่อเข้าเทรดไตรมาส3/65 แย้มอนาคตอาจตั้งกองทุน เอื้อรายย่อยเข้าลงทุน
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.),ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์(LiVEx) เปิดเผยว่า ตลท.ได้ออกประกาศเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 มี.ค.นี้
สำหรับการเปิดให้บริการกระดานLiVEx เพื่อสร้างทางเลือกการระดมทุนให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการเติบโต มีโอกาสใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำและภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ถือเป็นการพัฒนาตลาดทุนไปอีกก้าวหนึ่ง
ทั้งนี้ปัจจุบัน ธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ที่มีความพร้อมที่จะเข้ามาระดมทุนและนำหุ้นเข้าซื้อขายใน LiVEx ในปีนี้ มีจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ธุรกิจด้านเฮลท์แคร์เทคโนโลยี ธุรกิจอาหาร และธุรกิจไอทีเทคโนโลยี
ในเบื้องต้น คาดว่า แต่ละบริษัทจะมีเม็ดเงินระดมทุนหลัก 100 ล้านบาท โดยบริษัทแรกน่าจะเริ่มทยอยยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 และเข้ามาซื้อขายได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 ส่วนอีก 2 บริษัททยอยเข้ามาในปีนี้
นายประพันธ์ กล่าวว่า ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565-2567) ตลท. คาดว่าน่าจะมีจำนวนบริษัทเข้ามาระดมทุนและมีการเติบโตมากกว่าในตลาด mai เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มี 20 บริษัท ที่ให้ความสนใจ จากในช่วงที่ผ่านมามีเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมมาแล้วจำนวน 2 รุ่น ราว 60 บริษัท
รวมถึงยังมีหลายบริษัทจดทะเบียนในSET และ mai ที่เข้าไปลงทุนในบริษัทย่อยหรือสตาร์ทอัพ แล้ว อยากจะสปินออฟเข้ามากระดาน LiVEx ก่อนนำไปจดทะเบียนSET และ mai ต่อไป มีโอกาสที่จะเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มเติมในปีถัดๆ ไป
อย่างไรก็ตาม ตลท.ยืนยันว่ามีความพร้อมอย่างมากในการรองรับการซื้อขายในกระดาน LiVEx เนื่องจากคาดว่าจะมีนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ราว 10 โบรกเกอร์ที่พร้อมเข้ามาซื้อขายในกระดาน LiVEx ในการเปิดให้ลงทุน
นอกจากนี้หากในอนาคต กระดาน LiVEx ไปได้ดี ตลท.ก็มีแผนที่จะจัดตั้งกองทุน ซึ่งจะเป็นกองทุนที่มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้ามาลงทุนใน เเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ แต่จะเป็นการซื้อผ่านกองทุนโดยมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยบริหาร